อ่านเรื่องผี | ผับนี้มีอดีต! ผับใจกลางกรุงที่พนักงานยังกลัว

ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบการอ่านเรื่องผี หรือเป็นแฟนคลับตัวยงรายการวิทยุผีชื่อดัง ย่อมต้องคุ้นกับชื่อคนดังอย่าง “คุณคิง” เจ้าของเรื่องเล่าผีที่มีเอกลักษณ์ตรงที่ความระทึกและรายละเอียดของเหตุการณ์ และเรื่องเล่าผี “ผับนี้มีอดีต” เรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์ที่คุณคิงได้รับการบอกเล่ามาจากรุ่นน้องคนหนึ่ง ซึ่งมีประสบการณ์เคยเป็นน้องใหม่ในที่ทำงานของผับบาร์ใจกลางกรุง และโดยที่ไม่ได้รู้ความหลังของห้องห้องหนึ่ง…ที่ซึ่งแม้แต่พนักงานคนอื่นๆยังไม่กล้าเข้าไป ทำให้มีเหตุให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์อันแสนสะพรึงจนไม่อาจลืมได้

อ่านเรื่องผี : ประสบการณ์เจอดีเพราะแอบนอนหลับในผับ

เรื่องเล่าผีนี้เป็นเรื่องที่คุณคิง ผู้ถ่ายทอดรับฟังมาอีกต่อนึงจากคุณจ๊อบ เรื่องของผับดังกลางกรุงเทพ ใครที่เคยไปคงนึกออก แต่ปัจจุบันจ๊อบบอกว่าได้ปิดไปแล้ว ในเบื้องต้นขออธิบายก่อนว่าทางเข้าผับ ลักษณะจะเป็นบันไดชั้น 2 ทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ และร้านขายของ พอเปิดประตูเข้าไปก็จะเป็นผับ เข้าไปถึงก็จะเป็นบูธดีเจ พอเลยบูธดีเจไปทางด้านหลังร้านก็จะเป็นห้องน้ำของผู้ชาย แล้วฝั่งตรงข้ามของห้องน้ำผู้ชายก็จะมีประตูเล็กๆอยู่ประตูนึง ซึ่งถ้ามองไม่สังเกต หรือไม่มองดีๆจะมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำว่ามีประตูอยู่ตรงนั้น เป็นเหมือนประตูลับ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนได้ 15 ปีก่อนในตอนนั้นในคุณจ๊อบอายุยังไม่ถึง แต่ว่าก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของเส้นสาย คนเก่าที่เคยทำมาเป็นญาติกับจ๊อบ ก็เลยฝากให้จ๊อบเข้าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่

ลักษณะการเข้าไปทำงานคือ เข้างานตั้งแต่ 2 ทุ่ม แล้วร้านเขาเนี่ย ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าวิธีไหนยังไง แต่จะปิด 7-8 โมงเช้าเลย ซึ่งก็จะเลิกเช้าๆอย่างนี้ทุกวัน แต่กว่าจะเลิกก็จะมีการแอบดื่มกัน อะไรกันเป็นปกติ พอเลิกงานก็จะไหลไปที่อื่นต่อ เวลาพักผ่อนจะน้อยมาก พอเวลาพักผ่อนน้อยมาก คุณจ๊อบเค้าก็บอกว่า… ก็เที่ยวอยู่อย่างนี้ คบเพื่อนทุกคนในร้านจนสนิทกัน แต่ยังไม่สนิทใจกับใครมาก

จนมีอยู่วันนึง จ๊อบก็รู้สึกว่าสนิทกับพี่คนนี้มากที่สุด ชื่อว่า พี่นพ เขาก็เริ่มปรึกษากันกับพี่ เพราะเขาบอกเลยว่าผับเขาเนี่ยคนจะไหลมาจากที่อื่น ที่อื่นเขาจะปิดตี 2 ตี 3 แล้วก็จะมาต่อกันที่นี่ จนกระทั่งเลิก 7-8 โมงเช้า เขาบอกว่าตั้งแต่ร้านเปิด 2 ทุ่มไปเนี่ย ไม่มีคนเลย จนตี 1-2 จะเริ่มมีคนทยอยมา เค้าก็อาศัยเวลาตรงนี้มาปรึกษากัน…

“เออพี่ ผับเรานี่นะ คือกว่าแขกจะมาก็ตี 1 ตี 2 บางทีตี 3 ไปแล้ว”

“พี่นพ.. ผมว่าเรามาพักผ่อนกันดีกว่ามั้ยมั๊ย”

“คือผมเองก็เป็นเด็กใหม่น่ะพี่ แต่พี่อยู่ที่นี่มานาน ถ้าผมจะเสนออะไรซักอย่างนึงแล้วพี่จะเห็นด้วยมั๊ย”

พี่นพก็ถามว่าอะไร… จ๊อบก็บอกว่า..

“เรามาพักผ่อนกันในช่วง 2 ทุ่มเนี่ย เราไปนอนห้องนั้นกันมั๊ย”

ซึ่งก็คือห้องที่เกริ่นไปก่อนหน้าแล้ว ห้องที่เป็นเหมือนห้องลับประตูเล็กๆ

พี่นพ ก็บอกว่า… “ฮึ้ยย.. จะดีหรอ”

การที่พี่นพพูดว่าจะดีหรอ? ก็เพราะว่า… ห้องนี้เป็นห้องที่คุณจ๊อบสังเกตมานานแล้ว จากที่อยู่มาหลายเดือน แต่ไม่เคยถามอะไร ซึ่งห้องนี้…คือไม่ว่าจะเป็นเด็กคนไหนที่ได้รับหน้าที่เอาขวดที่หมดแล้ว ใส่ลังเอาไปเก็บ ซึ่งต้องไปเก็บที่ห้องนี้ แล้วลักษณะการเก็บของแต่ละคนก็คือ พอเปิดประตูปุ๊ปก็เอาเท้าถีบส่งเข้าไปเลย ไม่หันกลับไปมองด้วย บางทีก็รีบเปิดประตูโยนปุ๊ปก็รีบวิ่งออกมาเลย คุณจ๊อบก็สงสัยว่า เออ..ทำไมทำอย่างนั้นกันวะ อะไรแบบนี้ บางทีก็ได้ยินเสียงขวดแตกแต่ก็ไม่มีใครหันไปมองเลย จ๊อบก็เลยบอกพี่นพว่า…

“พี่ห้องนี้น่ะ ไม่น่ามีใครสนใจหรอก เราเข้าไปนอนกันได้มั๊ย”

พี่นพก็บอกว่า…

“พี่ก็ว่าน่าจะได้นะ เพราะมันก็ไม่มีใครหนิ ก็นั่งเล่นกันไปจนตี 1 ตี 2 แหละถึงจะมีแขกมา”

แต่พี่นพก็บอกจ๊อบอีกว่า…

“ถ้าพี่บอกอะไรกับจ๊อบไปเนี่ย จ๊อบจะต้องทำตามพี่นะ”

จ๊อบก็ถามว่าอะไรอ่ะ พี่นพก็บอกว่า…

“คือเราต้องสัญญากันก่อนว่า ถ้าเราเข้าไปนอนในห้องเนี้ย … ไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่งที่ตื่นแล้วจะออกจากห้อง จะต้องเรียกอีกคนนึงก่อน เราจะไม่ทิ้งกัน”

จ๊อบก็บอกว่า…

“เฮ้ย พี่มันขนาดนั้นเลยหรอ”

พี่นพก็บอกว่า…

“เอางี้เลยดีกว่าจ๊อบ พี่พูดตรงๆเลยนะ ร้านเรามีผีนะ”

“บ้าาา ผมอยู่มาตั้งนานแล้วเนี่ย ไม่เห็นอะไรพวกนี้เลย หลายเดือนแล้วนะ แล้วไมอยู่ๆพี่พูดแบบนี้เนี่ย”

“เอ็งสังเกตดิ ห้องนั้นเวลาใครไปเปิด มันต้องโยนของ โยนอะไร … ทำไมไม่วางเรียงดีๆล่ะ”

“แล้วเอ็งเชื่อมั๊ย พี่ท้าเลย ขวดมันอยู่สภาพไหนก็อยู่สภาพนั้น ไม่มีใครกล้าเข้าไปจัดของแม้แต่เจ้าของร้าน”

“เจ้าของร้านก็ไม่กล้าบังคับให้เด็กเข้าไป เพราะเด็กก็ไม่กล้าเข้า ประวัติมันดังมากห้องนั้นน่ะ”

จ๊อบก็เลยถามว่า…

“อืมม แล้วเราจะไปนอนได้หรอห้องนั้นน่ะ”

“ได้สิ ถ้าเราไปนอนกัน 2 คน แล้วเราก็ออกมาพร้อมๆกัน เราต้องไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าจ๊อบหรือพี่จะเข้าห้องน้ำ สัญญากันเลยว่าต้องปลุกอีกคนนึงไปด้วย”

“เราอยู่ส่วนเรา เขาอยู่ส่วนเขาเว้ย แล้วอีกอย่างเรา 2 คนก็เมาก่อนที่จะไปนอนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”

“ได้พี่”

จากนั้นเค้าก็ตัดสินใจเข้าไปนอน ประตูห้องเนี่ยจะเป็นประตูสปริงที่พอเปิดแล้วมันจะเด้งปิดเอง เค้าก็เอาลังมากันประตูไว้เพื่อให้แสงจากห้องน้ำลอดเข้ามาในประตู คือเดิมทีมันก้พอมีแสงเข้ามาบ้าง แต่การจัดห้องใหม่เขาต้องการให้มีแสงสว่างมากกว่าเดิม

ลักษณะการจัดห้องเค้าก็คือว่า จะกวาดเศษแก้วที่มันแตกออกไปไว้ข้างนึง แล้วก็เอาลังมาต่อๆกันให้เป็นรูปเตียง มีหัวเตียงด้วย เอาลังมากันมาบังไว้ ซึ่งด้านในจะมีประตูอีกชั้นนึงซึ่งมีกุญแจคล้องอยู่เฉยๆ แต่ไม่ได้ล็อค แล้วห้องนี้พี่นพบอกกำชับว่า…

“อย่าแตะต้องห้องนี้เด็ดขาด เราสัญญากันแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับห้องนี้”

“ได้พี่ พี่บอกไม่ให้ยุ่ง ผมก็ไม่ยุ่ง ชอยู่แล้ว ลำพังเข้ามานอนนี่ ผมยังต้องปรึกษาพี่เลย”

“โอเค เราอยู่ส่วนเรา เขาก็อยู่ส่วนเขา”

เค้าก็เอาลังมาตั้ง ตั้ง 7-8 ชั้น เป็นกำแพงเลย ตั้งข้างๆที่นอนของตัวเอง เพื่อไม่ให้เห็นอีกฝั่งนึงที่เป็นประตูห้องที่ว่า ห้องที่มันดำๆมืดๆแล้วเป็นทางลงลงไป ซึ่งก็ไม่เคยมีใครลงไปหรอก แต่รู้ว่ามีบันได เค้าพูดกันมาปากต่อปาก แล้วก็เอากุญแจคล้องไว้

วันที่คุณจ๊อบกับพี่นพเข้าไปนอนกันเนี่ย จะได้ยินเสียงๆนึง เป็นเสียงปริศนา แต่ก็ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาดู เพราะคุยกันไว้แล้วว่า.. จะไม่ลุก จะไม่ดู ถ้าจะลุกก็จะลุกพร้อมกัน จะไม่ทัก จะไม่พูดอะไรทั้งนั้น เสียงปริศนาที่ว่าก็คือ จะมีเสียงคนเดินมาจากบันไดชั้นล่างไปที่ห้องประตูนั้น แล้วประตูก็ดัง แอ๊ดดดดดดด… แล้วก็เดินเตะ เหมือนคนเอาเท้าเหยียบเศษขวดแก้ว เพล้ง แกร๊บบบ แกร๊กกก… แล้วก็เดินออกไป แล้วก็เปิดประตูห้อง เพื่อไปเข้าห้องน้ำ ประมาณว่าแบบนั้น ซึ่งเวลาเปิดประตูมันก็ไม่ได้มีแต่เสียง เวลาเปิดแสงมันก็จะรอดเข้ามา พวกเค้าทั้งคู่รับรู้มาทุกวันเป็นเวลากว่า 2 เดือน โดยที่ไม่เคยลุกไปชะโงกดู เพราะถือว่าเมาแล้ว จะนอน คิดแค่นี้กัน

เสียงก็เป็นแบบนี้มาตลอด ทั้งๆที่จ๊อบก็สงสัยว่า ถ้ามันเป็นคนจริงๆ จะเดินขึ้นมาได้ยังไง เพราะว่ากุญแจมันคล้องมาจากข้างนอกจากฝั่งนี้ เขาไม่สามารถจะเปิดเข้ามาได้ แต่ในเมื่อมีคนบอกว่าห้องนี้มีผี เค้าก็สรุปก็คิดกันว่าเป็นผี รู้แล้วก็จบ แล้วไม่ใส่ใจ

ที่นี้…วันที่มันพีคก็คือ เค้านอนกันมาร่วม 2 เดือนก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น วันนั้นเค้าก็นอน อยู่ดีๆ เนี่ยคือคนเราพอนอนบนลังเบียร์นานๆมันก็เมื่อยก็อะไร  เพราะนอนบนลังเบียร์ที่มีขวดเปล่าอยู่ข้างในมันก็จะบุ๋มๆ เค้าก็เลยตะแคงมาอีกข้างนึงเพื่อจะหันมาหาพี่ที่ชื่อนพ แล้วเวลาที่หันตะแคงมาก็จะเอาเท้าไปแตะหน่อยเช็คว่าแบบ..เออ พี่มันยังอยู่นะ แต่คราวนี้จ๊อบจะเอาเท้าไปแตะ แต่ว่าไม่เจออะไรเลย ว่าง.. เค้าก็ลืมตามอง ก็ไม่เห็นพี่นพ

“เฮ้ย พี่นพทิ้งนี่หว่า อ้าวไหนตกลงกันไว้แล้วไง”

แต่ตอนนั้นเค้าก็อยู่มาเป็นเดือนๆแล้ว ก็ไม่ได้คิดใส่ใจอะไร ส่วนเรื่องผีเค้าก็ได้ยินอยู่ทุกวันจนชิน และเสียงที่เดินเนี่ย มันเดินอยู่อีกฝั่งนึงที่เอาลังเบียร์ ที่ตั้งไว้ 7  ชั้น ที่ตั้งเอาไว้เป็นแผงเหมือนกำแพง จะไม่เห็นอะไรเลย

ทีนี้จ๊อบก็ทำท่ากำลังจะลุกเหมือนกัน เสียงก็มาละ กึกๆ กึกๆๆ แอ๊ดดดดดด… จ๊อบก็เลย อึ้ยย รีบล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม แล้วก็หดขาเข้าไป เสียงก็เดินมาเรื่อยๆ กึกๆ กึกๆๆ… แล้วก็หยุด ซึ่งปกติแล้ว เสียงจะต้องเดินไปที่หน้าประตู แต่วันนี้ เขา เดินมาหยุด อยู่ตรงช่วงหัวนอน แถวๆลังเบียร์นั่นแหละ ผมก็ถามคุณจ๊อบน่ะว่าเดินเร็วมั้ย เค้าก็บอกว่าไม่รีบนะพี่ เหมือนคนเดินเหยียบเดินเตะเศษแก้ว พอเงียบเสร็จ จ๊อบเค้าก็ค่อยๆหรี่ตามอง ก็เห็นมีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งใส่ชุดเหมือนชุดเดินชายหาด เค้าหรี่ตามองกะว่าไม่อยากให้ฝั่งนั้นรู้ว่ามองอยู่ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ค่อยๆหันมามองเค้า และเขาทำท่าเหมือนจะก้มหน้าลงมาหน่อยนึง จ๊อบก็คิดว่าเขาคงเห็นว่าเรามองเขา ก็เลยหลับตาให้สนิทเลย เสียงก็ยังดังอยู่ กึกๆๆ กึกๆ แกร๊บบบๆ แล้วก็เดินผ่านหายไปจนเงียบ

จนใช้เวลาอยู่ประมาณ 10 นาที คิดว่าน่าจะไปแล้วหละ จ๊อบก็หรี่ๆตามองก่อน ไม่มีอะไร ก็เลยลืมตาเช็ดเหงื่อ ทำท่าจะลุก….

ผู้หญิงคนนั้นก้มหน้าอยู่บนหัวนอน หน้าห่างจากจ๊อบประมาณ 2 คืบ

จ๊อบก็ลืมตาค้าง เค้าช็อคอยู่อย่างนั้น ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆก้มลงมาแล้วก็ยิ้มกว้างขึ้นๆๆๆ จ๊อบก็ก้มหน้าตะแคง แล้วก็หลับตาไว้ ผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งรอบๆเตียงที่ทำเอาไว้

“เหอะๆๆๆๆๆ ฮิๆๆๆๆๆๆ”

วิ่งไปหัวเราะเหมือนสะใจ อารมณ์นั้นจ๊อบก็ไม่กล้ากระดุกกระดิกไปไหนเลย พี่นพก็ไม่รู้หายไปไหน ในใจจ๊อบก็นึกด่าอยู่

“ทำไมถึงทำกันแบบนี้ ทำไมถึงทิ้งกันแบบนี้”

แต่ก็ไม่กล้าลุก เสียงหัวเราะของผู้หญิงคนนั้นดัง “เหอะๆๆๆๆๆ ฮิๆๆๆๆๆ” ไม่หยุดร่วมชั่วโมงได้ จนในที่สุดน้าของจ๊อบมาเรียก

“จ๊อบ! ไม่ทำงานหรือไง”

แต่น้าเขาก็ยังไม่กล้าเปิด เพราะว่าน้าก็รู้ว่าห้องนี้มีอะไร จนเรียกนานผิดปกติ แต่จ๊อบก็ไม่กล้าตอบ แต่ด้วยความที่น้าเป็นห่วงหลาน น้าก็เลยเปิดประตูแล้วแสงมันก็ส่องไปที่จ๊อบพอดี คุณจ๊อบบอกว่า… ทันทีที่แสงจากประตูส่องเข้ามา เสียงของผู้หญิงคนนั้นก็หายไป แล้วก็มีเสียงประตูปริศนาด้านในดังแอ้ดดด คึ่ก ปิดทันทีเลย!! จ๊อบก็พยายามจะลุกขึ้น แต่ลุกไม่ได้ จนน้าถามว่า…

“เห้ย เป็นอะไรไปน่ะ”

น้าก็เลยจับตัวของจ๊อบ พอน้าแตะตัว คุณจ๊อบก็เหมือนหลุดออกจากภวังค์ ลุกขึ้นแล้วก็วิ่งออกไปข้างนอกร้านเลย ตรงหน้าร้านค้าที่อยู่หน้าห้องน้ำ พอออกไปจ๊อบก็ไปเจอพี่นพหน้าซีดๆ ทุกคนก็ถามจ๊อบว่า…

“เป็นอะไร วิ่งหน้าตาตื่นมา”

จ๊อบก็เล่าให้ฟังว่าเจองี้ๆๆนะ ตอนนั้นจ๊อบก็กะว่าจะด่าพี่นพเต็มที่เลย พอจ๊อบเล่าจบ…กำลังจะไปต่อว่าพี่นพ พี่นพก็พูดสวนขึ้นมาเลยว่า..

“เมิงเจอแค่นี้หรอ เจอแค่นั้นใช่มั้ย?”

แต่ว่า…ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้พี่นพก็ไม่ได้เล่าให้จ๊อบฟังว่าเจออะไรมา อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังอ่านเรื่องผีมาถึงตรงนี้ อาจสงสัยว่าเรื่องกำลังจะจบแล้วหรือไม่? ขอตอบว่า “ยัง!” ยังมีความหลอนอีกระดับรอคุณอยู่…

หลังจากนั้นคุณจ๊อบเค้าก็เลยสืบประวัติ ว่าร้านนี้มันเคยมีอะไรมาก่อน จ๊อบก็เริ่มไล่ถามจากคนภายในเด็กเก่า แล้วก็มีคนนึงชื่อ “พี่ลาย”

พี่ลายจะเป็นคนถือของทางเขมร พี่ลายก็บอกจ๊อบว่า…

“มาคุยกับพี่นะ คุยถูกคนแล้ว เมิงรู้ป่าว ในร้านเราอ่ะมีอีกเยอะนะ”

“แล้วพี่ลายรู้ได้ไงว่าเยอะ”

“กรูรู้ยังไงไม่ต้องสนใจ รู้แต่ประวัติร้านเราเนี่ย… เห็นมั้ยว่าเป็นตึก 2 คูหา แล้วก็เจาะทะลุทำเป็นร้านเดียวกัน”

“ฝั่งนี้ ฝั่งที่เมิงยืนคุยกับกันอยู่เนี่ย… มันเคยเกิดไฟใหม้ แล้วมันเคยเป็นที่ขายบริการเก่ามาก่อนด้วย”

“มีประวัติว่าเคยมีการเอาผู้หญิงมาขังไว้ในนี้ ส่วนอีกฝั่งนึงก็เป็นที่ทำแท้งเถื่อนมาก่อน แล้วไม่สังเกตบ้างหรอว่า… ทำไมไอ 3 ตึกที่อยู่ข้างๆเนี่ย ไม่มีใครมาอยู่หรือเปิดทำอะไรเลย”

“ก็เพราะที่นี่มันเฮี้ยนนนมาก”

จ๊อบฟังแต่ก็ยังไม่เชื่อ เพราะร้านไม่มีสภาพที่ว่าไฟไหม้เลย…

จนมีอยู่วันนึง วันนั้นเป็นวันที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นคนที่อยู่ในผับแล้วอายุไม่ถึง แล้วจ๊อบก็อายุไม่ถึง ด้วยความรีบเจ้าของร้านก็ดึงมือให้ไปหลบในห้องนั้น ดันจ๊อบเข้าไป ดันไม่พอล็อคกุญแจข้างนอกด้วยอีกตังหาก! ตอนนั้นจ๊อบก็อายุแค่ 14-15 กลัวจะโดนตำรวจจับ ด้วยความที่จ๊อบกลัวตำรวจ ก็เลยเอาโทรศัพท์มือถือเปิดไฟ แล้วก็เดินลงไปในห้องนั้นเป็นครั้งแรก ซึ่งในร้านไม่เคยมีใครทำมาก่อน พอจ๊อบลงไปก็รู้เลยว่า… ที่นี่เคยไฟไหม้มาก่อน เพราะมันมีคราบไฟไหม้เต็มหมดเลย ข้างล่างทั้งแฉะชื้น มีทั้งหนู ทั้งแมลงสาบเต็มไปหมด แล้วก็ปิดประตู หูก็ฟังเสียงข้างบนบันไดว่าเขาจะเปิดเข้ามาดูมั้ย? เขาจะเจอเรามั้ย?

จนจ๊อบเอาไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องไล่ไปๆ จนมาหยุดอยู่ที่หัวของจ๊อบ ก็เห็นเป็นเชือกอันนึงผูกอยู่ที่ขื่อ เป็นเชือกเหมือนใช้จับคน ตอนนั้นจ๊อบก็รู้เลยว่าเป็นเชือกที่เคยใช้ผูกคอ ก็เลยถอยหลังออกมาหน่อย ส่องไฟฉายไปทางซ้ายมือ ก็เห็นธูปอยู่ 7-8 ดอกวางซ้อนๆกันอยู่ แล้วมีรอยโซ่ รอยอะไร จ๊อบก็รู้เลยว่าสิ่งที่พี่ลายเล่าให้ฟังว่า.. ที่นี่เคยเป็นที่ขายบริการเก่าแล้วไฟไหม้ แล้วพวกผู้หญิงที่ถูกขังไว้ เอาโซ่มัดไว้ ไฟครอกไปพร้อมกันหมดเลย

จ๊อบก็ตัดสินใจเดินย้อนกลับขึ้นมาเปิดประตูข้างใน แล้วก็ออกมาพิงประตูชั้นนอกเพื่อที่จะออกละ แต่ก็ยังไม่มีใครมาเปิดประตูให้

วินาทีนั้นก็มีเสียงเดินขึ้นบันไดตามขึ้นมา ตอนนั้นจ๊อบใจจะขาด รู้ทั้งรู้ว่า ยังไงเขาต้องเดินขึ้นมาหาเราแน่ๆ เค้าก็นั่งมองอยู่อย่างนั้นจะเคาะประตูก็ไม่กล้า เพราะตัวเองอายุยังไม่ถึงแล้วมาทำงานในผับ กลัวตำรวจ กลัวจะมีปัญหา แต่โชคดีที่เจ้าของร้านมาเปิดให้ก่อน พอออกมาได้ ก็เดินไปคุยกับพี่ลาย พี่ลายแกก็บอกว่า…

“จริงๆแล้วเนี่ย มันมีอีกหลายเรื่องก่อนที่จะมาเป็นร้านนี้”

“เพราะเคยแบ่งให้ผู้หญิงคนนึงเช่าอยู่ แล้วผู้หญิงคนนี้มีปัญกาชีวิต เหมือนเขาน้อยใจอะไรไม่รู้ ตัดช่องน้อยแต่พอตัว…เห็นเชือกแล้วคิดสั้นซะงั้น”

ซึ่งมันก็ตรงกับเชือกที่จ๊อบเห็น หลังจากนั้นจ๊อบก็ยังกลับไปนอน แล้วก็ฝันว่ามีผู้หญิงคนนึงมาบอก

“ช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้ฉันด้วย มีคนทำฉัน ฉันชื่อ ‘ละออ’ ”

ตอนนั้นจ๊อบก็เงียบไว้แล้วก็มาถามพี่ลายอีกครั้งว่า…

“พี่ตอบได้มั้ย… ว่าผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร”

พี่ลายก็ถามกลับ… “แล้วเมิงรู้หรือไงว่าเขาชื่ออะไร?”

“ผมขอฟังพี่ก่อนว่าตรง ไม่ตรง”

พี่ลายก็ตอบแบบไม่คิดอะไรว่า.. ชื่อละออ

แล้วสิ่งที่คุณจ๊อบคิดคือ… คนชื่อละออ น่าจะไม่ได้คิดสั้น แต่อาจจะโดนคนอื่นกระทำ แล้วก็จัดฉากอำพรางคดีมากกว่า

ซึ่งนอกจากนี้เวลาเปิดร้านช่วง ทุ่ม สองทุ่มก็จะมีเด็กในร้านเจอผู้หญิงชุดขาว ชุดเดินทะเลเดินเข้าไปในร้าน หายเข้าไปในบันได

หลังจากนั้นทางร้านเค้าก็อนุญาติให้ไปนอนในห้องเก็บเครื่องดื่ม เก็บขวด ก็ยังเจอผู้หญิงคนนั้นยืนมองอยู่ พูดง่ายๆว่า…เด็กในร้านเจอกันทุกคน และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ขอบคุณที่มา : “ผับนี้มีอดีต” – คุณคิง

อ่านเรื่องผี น่ากลัว เรื่องอื่นๆ >> กดที่นี่

กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์