เรื่องเล่าผีวันนี้ เป็นเรื่องราวที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “หาญ ใจสิงห์” ได้นำมาถ่ายทอดลงในโลกโซเชียล โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่รันทดของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ในชมรมนาฏศิลป์ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มที่ถูกชักชวนให้เข้าร่วมชมรมจากสาวที่หมายปอง แม้ว่าตนต้องสวมบทตัวร้ายก็เต็มใจ และแม้กระทั่งหมดล้มหายใจ…เขาก็ไม่เคยลืมเธอคนนั้น
หนุ่มนาฏศิลป์ที่ศรัทธาในหน้าที่ บทบาท และความรัก
เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ ผมได้รับฟังมาจากรุ่นน้องอีกทีหนึ่ง ในสมัยที่ผมยังเป็นสิงห์นักดื่ม และร่วมก๊วนตั้งวงกินดื่มกับเพื่อนๆ ในค่ำคืนนั้นเองขณะที่พวกเราตั้งวงกันอยู่บนโต๊ะม้านั่งใต้ต้นไทรต่นใหญ่ที่มีรากงอกย้อยรุงรัง ใต้ต้นไทรที่ว่านั่นมีหุ่นจำลองนางรำ กุมาร ฤาษีต่างๆที่มักใช้ในการตั้งไว้ในศาล มาทิ้งระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด จู่ๆน้องคนที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังก็นิ่งจ้องบางสิ่งบางอย่างลึกเข้าไปในกองหุ่นชำรุดเหล่านั้น ผมทักถาม น้องมันก็ชี้ให้ผมดู…สิ่งที่มันกำลังสนใจอยู่คือหุ่นจำลองรูปหนุมานและพญายักษาทศกัณฐ์
“พี่หาญเชื่อเรื่องผีมั้ย?”
นั่นคือจุดเริ่มต้น ตอนนั้นนาฬิกาข้อมือผมบอกเวลา 5 ทุ่ม 15 นาที คำพูดเมื่อกี้กูจะเรียกความสนใจจากเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆด้วยเช่นกัน ผมตอบกลับไปสั้นๆว่า “พี่เชื่อนะ” ก่อนที่น้องคนนั้นจะออกปาก เล่าเรื่องผีที่บาดลึกจิตใจจนฟังจบแล้วต้องน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว ไว้ว่า…
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน สมัยผมยังอยู่ม.ปลาย ถ้าจะให้ระบุชัดเจนกว่านั้นก็คือตอนมัธยมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนจำเป็นต้องเลือกกิจกรรมชมรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการศึกษา ผมมีเพื่อนซี้กันอีก 2 คนคือ กอล์ฟ กับ ยิม ด้วยความที่เป็นผู้ชายวัยรุ่น พวกเรากะจะเข้าร่วมชมรมที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นชายทั่วไปอย่างชมรมดนตรีสากล ไม่ก็ชมรมกีฬาเท่ๆอย่างบาสเก็ตบอล คงไม่มีใครนึกฝันว่าสุดท้ายชมรมที่พวกผมเลือกเข้าจะเป็นชมรมนาฏศิลป์
สาเหตุก็ง่ายๆ เป็นเพราะว่าเพื่อนผมแอบชอบสาวคนนึงเหมือนกันอยู่ เพียงแค่ชมพู่สาวสวยประจำชมรมนาฏศิลป์มาชวนทั้งคู่เข้าชมรม เนื่องจากปีนั้นคนขาด เพื่อนผมก็รีบตอบรับเข้าร่วมแบบที่ไม่ต้องคิดเลยทีเดียว เรียกว่ากะทำคะแนนให้ได้ใจกันไปเต็มๆ แถมตะได้ใกบ่ชิดกับเธอมากขึ้นอีก โอกาสดีๆแบบนี้หากไม่คว้าไว้คงต้องเสียใจทีหลังแน่ๆ อย่างไรก็ตาม ผมเองก็ตกกะไดพลอยโจนไปกับเขาด้วย
พอเข้าไปในชมรมจึงได้รู้ว่าเขาสอนการเล่นโขน มีครูมาสอนหัดเล่นหัดแสดงตลอด เพื่อที่จะออกแสดงในงานเลี้ยงรุ่นพี่ในท้องเรื่องรามเกียรติ์ โดยให้กอล์ฟเป็นพระราม ยิมเป็นทศกัณฐ์ ผมเป็นหนุมานแล้วชมพู่เป็นนางสีดา ทั้งหมดมาฝึกซ้อมด้วยกันหลังเลิกเรียนทุกวัน
วันเวลาผ่านไป ผมได้รู้ว่าชมพู่แอบมีใจให้กับกอล์ฟ ส่วนยิมนั้นก็รู้แต่ยังไม่ละความพยายาม มันพยายามตามตื้อ ซื้อดอกไม้มาให้ ชวนไปกินไอติมตลอด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ชมพู่เปลี่ยนใจได้เลย ทั้งสองชอบพอกัน เวลาซ้อมเข้าพระเข้านางกันช่างดูหวานสวยงาม ผมสังเกตเห็นยิมร้องไห้ภายใต้หัวโขนทศกัณฐ์อยู่เสมอ
ใกล้จะถึงวันแสดงมากขึ้นเท่าไหร่ ยิมนั้นก็ดูคล้ายใจสลายมากขึ้นเท่านั้น ก่อนวันแสดงจริงสองวัน ครูบอกให้ซ้อมดึกเสียหน่อยเพื่อความสวยงามและสมจริง ช่วงพักกินข้าวชมพู่กับกอล์ฟนั่งเคียงคู่หยอกล้อ ผมหันไปมองยิมที่นั่งก้มหน้าตาแดงก่ำ ไม่มีอาการใดๆ นอกจากหยดน้ำตาที่ไหลลงในจานข้าว ผมเอามือตบไหล่ถามแผ่วเบาว่าไหวไหม งานจะเริ่มวันสองวันนี้แล้วนะ ยิมพยักหน้าให้ แล้วลุกหันหลังเดินออกไปจากตรงนั้น
วันต่อมา ทั้งหมดได้มาซ้อมกันอีกครั้ง แต่คราวนี้แปลกตรงที่ยิมไม่ถอดหัวทศกัณฐ์ออกเลย มันไปนั่งที่ศาลาริมน้ำหลังโรงเรียน ผมเดินตามเจอ แล้วจะเรียกไปกินข้าว
“เฮ้ยยิม! ครูให้เรียกไปกินข้าวว่ะ”
“เออ ไปเถอะ กรุไม่ค่อยหิว”
“เมิงเป็นอะไรมากป่าววะ?”
“กรุถามหน่อย เมิงว่าไอ้เรื่องรามเกียรติ์มันมีจริงไหมวะ?”
“ไม่รู้สิ กรุว่ามันเป็นนิยายคล้ายๆ ไซอิ๋วมั้ง ทำไมถามงี้วะ”
“ทำไมทศกัณฐ์ต้องแพ้พระรามด้วยวะ?”
“ก็พระรามคือคนที่สีดารักไง”
“ถึงทศกัณฐ์เป็นยักษ์แต่มันก็รักสีดาไม่น้อยกว่าพระรามนะ”
“มันก็ใช่ แต่เดี๋ยวก่อน เมิงกำลังสื่อถึงอะไรไหม เรื่องของชมพู่ใช่ไหม”
…ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงความเงียบงันเข้ามาแทนที่
ผมตบไหล่ยิมบอกทำใจเถอะ ยังไงเธอก็มีใจให้กอล์ฟ คนมันไม่ใช่ต่อให้ดีกับเขาแค่ไหนเขาก็ไม่เอา แล้วยิมก็บอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดชมพู่ ว่าจะไปซื้อของขวัญวันเกิดให้ ผมถามว่าจะไปตอนนี้เลยเหรอ ยิมพยักหน้าแล้วบอกว่าไปทั้งชุดนี้แหละ เดี๋ยวขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป ผมเลยแซวว่า ถอดออกด้วยนะหัวโขนน่ะ เดี๋ยวใครเห็นทศกัณฐ์ขี่มอไซค์จะตกใจแย่ ยิมลุกเดินไปสตาร์ทรถก่อนขับออกไป
เดินกลับไปแล้วก็นั่งเล่นอยู่ม้าหินอ่อนหน้าโรงเรียน เวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง ดูนาฬิกาที่ฝาผนังบอกว่าสี่ทุ่มครึ่งก็สงสัย ทำไมเจ้ายมมันไม่กลับมาสักที หรือมันจะไปกินเหล้าเพราะกลุ้มใจ
ผมกำลังจะเดินไปบอกครู แต่ก็มีเสียงรถขี่เข้ามาพอดี หันกลับไปกลายเป็นยิมถือถุงมาหนึ่งถุง ยื่นให้ผม ตัวมันมีแต่น้ำบอกว่าไปเปลี่ยนชุดก่อน ผมเห็นว่ามันมาแล้วก็เออออไป พอถึงตอนนอนก็เห็นยิมนอนคลุมโปงอยู่คิดว่าไม่สบายหรือเปล่า ไม่ทันได้ถามก็หลับเสียก่อน
ตื่นมาตีห้า ปรากฏว่ายิมหายไปแล้ว ทุกคนไปแต่งตัวเพื่อที่จะซ้อมใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนแสดงในอีกไม่กี่ชั่วโมง ผมในชุดหนุมานเดินหายิมปรากฏว่าไม่เจอ กอล์ฟมาเรียกบอกว่าครูให้มาตามไปไหว้พ่อแก่ ผมบอกยังไม่เจอยิมเลย กอล์ฟบอกจะเจอได้ไง มันนั่งใส่ชุดทศกัณฐ์รออยู่ในห้องแล้ว ผมเลยเดินตามไป
พอถึงห้องก็ไปไหว้พ่อแก่เสร็จถามยิมว่าไปไหนมา ยิมว่าแอบเอาของขวัญไปให้ชมพู่ แต่ว่าชมพู่รับไปไม่มีแม้คำขอบใจ ไม่ยิ้มให้ด้วยซ้ำ เลยบอกไปว่าอย่าคิดมากเลยจะแสดงแล้ว
พอถึงเวลาแสดง ผมสังเกตว่ายิมแสดงดีมากจริงๆ ยิ่งบทเศร้านี่หดหู่ใจตาม ตอนจบที่พระรามยิงธนูมาโดนแต่ยังยืนหยัดอยู่ได้ ครั้นหนุมานไปเอากล่องดวงใจที่ทศกัณฐ์ถอดไว้แล้วมาทำลาย มันแกล้งเดินไปขาดใจล้มฟุบลงไป แล้วจบการแสดง ผ้าม่านก็ค่อยๆ ปิดลง พอทุกคนเดินลงจากเวที ผมมองหายิมมันหายไปอีกแล้ว…
ไม่ถึงห้านาที มีรถมูลนิธิคันหนึ่งวิ่งเข้ามา บอกว่ามีนักเรียนชื่อนี้ นามสกุลนี้ไหม? ครูอาจารย์ กอล์ฟและชมพู่ก็ไปดู ปรากฏว่าเป็นชื่อจริงของยิม! เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น
พี่มูลนิธิบอกว่า น้องคนนี้เสียแล้วนะ เหมือนจะขับขี่มอเตอร์ไซค์ไปด้วยความเร็ว ทางก็มืดหรืออย่างไรไม่รู้ น้องเขาขี่ไปอัดกับท้ายรถสิบล้อที่จอดอยู่ข้างทาง ดับอนาถคาที่เลย มอเตอร์ไซค์กระเด็นไปใต้ท้องรถ ส่วนร่างน้องกระเด็นกลิ้ง ลงไปติดอยู่ในร่องน้ำข้างทาง
ทุกคนถึงกับหน้าเสียและตกตะลึงหมด ผมถามว่าแล้วคนขับรถสิบล้อไม่รู้หรือพี่
“แกไม่รู้สิ แกดื่มมาก่อนไง เลยจอดนอน พอตื่นมาตอนเจ็ดโมงลงไปชิ้งฉ่องข้างรถ มองเห็นมอเตอร์ไซค์เลยกวาดสายตาดู ถึงได้เจอร่างไร้วิญญาณของน้องคนนี้นอนหงิกงออยู่ แกสร่างทันทีเลยรีบมาแจ้งพี่นี่แหละ แล้วที่พี่รู้ว่าอยู่โรงเรียนนี้เพราะพี่ถอดชุดโขนที่น้องเขาใส่อยู่ เลยเห็นชื่อที่ปักบนเสื้อนักเรียนน้องเขาไง”
ชมพู่ถามด้วยน้ำเสียงสั่น ว่าใส่ชุดยักษ์ไหมคะพี่ แล้วเสียเมื่อไหร่ พี่เขาตอบมาว่า ใส่ชุดเหมือนทศกัณฐ์นี่ล่ะ แล้วดูเหมือนจะเสียตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ทั้งหมดได้แต่ยืนน้ำตาไหล ผมถึงกับร้องไห้ออกมา ส่วนชมพู่บอกว่าแล้วที่พวกเราเห็นยิมนอนอยู่ ที่แสดงด้วยกันเมื่อกี้คืออะไร วิญญาณยิมใช่ไหม? ผมบอกชมพู่ว่าเมื่อเช้ายิมบอกว่าเอาของขวัญวันเกิดมาให้เธอนี่นา แต่เธอไม่ยิ้มไม่ขอบใจมันเลย
ชมพู่สะอื้นไห้ บอกว่าเธอบอกยิมแล้ว ว่าอย่าพยายามอีกเลย เหมือนทศกัณฐ์ต่อให้รักมั่นสีดาแค่ไหนอย่างไรก็พ่ายพระรามอยู่ดี คงรู้ว่าที่เธอพูดหมายความว่าไงนะ แล้วเธอก็เห็นว่ามีน้ำหยดออกมา ภายใต้หัวโขนทศกัณฐ์นั้น เขาคงเศร้าใจมาก ผมคิดได้แค่ว่าสงสารยิมมาก หวังว่ามันคงไม่ได้จะคิดสั้น แต่น้ำตาจากความเสียใจที่มันรินไหล คงทำให้มองอะไรไม่ชัด จึงเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น
หลังจากวันนั้นมา ทั้งผม กอล์ฟและชมพู่ ก็ขอออกจากชมรมนาฏศิลป์ เพราะทำใจไม่ได้ที่ได้เห็นหัวโขนทศกัณฐ์ เรื่องราวมีเท่านี้ครับ
ขอบคุณที่มาเรื่องเล่าผี : ผู้ใช้เฟสบุ๊ค หาญ ใจสิงห์
อ่านเรื่องผีน่ากลัว เรื่องอื่นๆ >> กดที่นี่
กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์