“รถทัวร์เที่ยวกลางคืน” ลงไปเข้าห้องน้ำที่ปั้ม..กลับมามีแต่ผีเต็มคันรถ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ6 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องสมัยที่คุณตี๋ยังเป็นนักศึกษาอยู่ ตอนนั้นคุณตี๋หารายได้เสริมขณะเรียน ด้วยการรับถ่ายรูปรับปริญญาตามสมัยนิยม ที่วัยรุ่นหันมาเล่นมาใช้กล้องโปรกัน และด้วยความที่เป็นมือสมัครเล่น บางครั้งงานที่รับมาก็มักจะเป็นลูกค้าที่งบน้อยหรืออาจจะอยู่ไกล จนตากล้องมือโปรเลือกที่จะส่งต่อมาให้ทำเพราะไม่อยากไปเอง

เรื่องเล่าสยองขวัญ: รถทัวร์เที่ยวกลางคืน…ลงไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียวกลับมาผีมานั่งข้างๆ

ครั้งนั้นคุณตี๋และเพื่อนอีก2 คนได้รับงานถ่ายรูปรับปริญญาของมหาวิทยาลัยหนึ่งในวันงานซ้อมรับก็ผ่านไปได้ด้วยดี เนื่องจากมหาวิทยาลัยนั้นอยู่ในจังหวัดเดียวกันกับที่คุณตี๋อยู่ หากแต่ในวันรับจริงนั้นต้องเดินทางไกล เพราะงานวันรับจริงนั้นจะถูกจัดในมหาวิทยาลัยชื่อเดียวกันแต่เป็นอีกวิทยาเขตหนึ่งในต่างจังหวัด สำหรับตากล้องมืออาชีพคงเลี่ยงจะรับงานแบบนี้ ด้วยเกรงว่าจะไม่คุ้มค่าเหนื่อย แต่สำหรับคุณตี๋และเพื่อนๆแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องน่าสนุกและตื่นเต้น แน่นอนว่าคุณตี๋ไม่เคยไปมาก่อนจึงให้ความรู้สึกเหมือนการผจญภัย… หากแต่พอกลับมาย้อนคิดดูแล้วเหตุการณ์ในครั้งนั้น ดูจะเป็นความตื่นเต้นจากเหตุสยองขวัญมากกว่านึกสนุก

คุณตี๋และพรรคพวก ได้รับการติดต่อจากพี่ที่เป็นลูกค้าว่า ให้ไปขึ้นรถที่มหาวิทยาลัยของพี่ตอน2 ทุ่มครึ่ง เพราะทางมหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมรถทัวร์สำหรับรับบัณฑิตและญาติๆ ที่จะไปร่วมงานวันรับจริง ในส่วนของพี่ลูกค้านั้น จะเดินทางไปเองส่วนตัวกับครอบครัว คุณตี๋ไปทันซื้อตั๋วพอดี และได้ที่นั่งในรถคันหนึ่งจากกว่า10 คัน ซึ่งเป็นคันเดียวกันกับเพื่อนที่มาด้วยกัน

รถต้องเดินไปไกลกว่า 6-7 ชั่วโมง ในรถทัวร์ถูกดับไฟจนมืดเพื่อไม่เป็นการรบกวนผู้โดยสาร เนื่องจากเป็นการเดินทางในตอนกลางคืน ทุกคนบนรถภายใต้ความมืด ถ้าไม่หลับโดยซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบางที่รถทัวร์แจกให้ ก็มักจะเล่นโทรศัพท์คร่าเวลา คุณตี๋กับเพื่อนที่มาด้วยกันก็คุยเล่นด้วยความตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้ เพราะไม่เคยมาเส้นทางนี้มาก่อนไม่รู้ว่าจะได้เจออะไรบ้าง พร้อมสังเกตนอกหน้าต่างกันเป็นระยะ จนกระทั่งในที่สุดก็ผลอยหลับกันไปเอง

ไม่รู้ว่ารถเดินทางมาไกลเท่าไหร่ คุณตี๋รู้สึกตัวว่ารถไม่ได้เคลื่อนตัวแม้ยังติดเครื่องอยู่ คุณตี๋มองดูนาฬิกาจากในความมืด ขณะนั้นเป็นเวลาตี3 จึงเริ่มสังเกตนอกรถจากหน้าต่างภายนอก คล้ายรถกำลังอยู่ในจุดพักรถหรืออู่รถทัวร์เพื่อรอเติมน้ำมัน ในอู่มีลักษณะเป็นลานกว้างมีเกาะกลางคล้ายสถานี โดยรอบมีรถทัวร์จอดแวะพักอยู่หลายคัน สักพักทั้งคันรถก็สว่างสไวขึ้นจากหลอดไฟด้านบน ขณะนั้นคุณตี๋เริ่มสังเกตเห็นว่าคนในรถเริ่มตื่นมากดโทรศัพท์บ้าง คุยจ้อกแจ้กบ้าง แต่ครู่หนึ่งก็สะดุ้งขึ้น เพราะว่าฟาร์ม..เพื่อนที่นั่งติดกันนั้นจะลุกไปเข้าห้องน้ำ คุณตี๋ลุกขึ้นให้ฟาร์มเดินออกไปที่ทางเดินได้สะดวก เขาเห็นฟาร์มเดินไปด้านหลังเพื่อเข้าห้องน้ำ… นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณตี๋ยังเห็นฟาร์มมีสติคุยรู้เรื่อง

หลังจากนี้จะเล่าในมุมมองของฟาร์ม ซึ่งคุณตี๋เล่าว่าได้ทราบเรื่องทั้งหมดในภายหลังจากฟาร์ม

ฟาร์มเดินแบบงัวเงียไปท้ายรถเพื่อจะเข้าห้องน้ำ แต่พบว่าถูกใช้งานอยู่ และดูเหมือนจะมีคนรอต่อคิวอีกอย่างน้อย3-4 คน คุณฟาร์มจึงเลือกที่จะลงไปขอเข้าห้องน้ำในสถานี เนื่องจากปวดหนักรอไม่ไหว หลังจากกระซิบกระซาบกับคนขับที่เดินตรวจความเรียบร้อยอยู่ คนขับก็เหมือนแกล้งพูดว่า ‘ปวดขี้เหรอ รีบไปรีบมาแล้วกัน แถวนี้อยู่นานไม่ดี’ จนเพื่อนคุณฟาร์มอดขำและแซวไม่ได้

คุณฟาร์มลงไปใช้ห้องน้ำในสถานี ห้องน้ำจัดว่าสะอาดดีไม่ต่างจากห้องน้ำในปั๊มใหญ่ๆ หลังปลดทุกข์เรียบร้อยแล้วก็กลับออกมา แต่คราวนี้ด้านนอกกลับเต็มไปด้วยรถทัวร์หน้าตาคล้ายกันเต็มไปหมด บางทีรถคันอื่นๆคงตามมาทันกันพอดี คุณฟาร์มมองหายังไงก็ไม่เจอรถของตัวเอง เนื่องจากตอนขึ้นก็ไม่ได้จดจำลักษณะเด่นหรือป้ายทะเบียนรถ คุณฟาร์มเดินหาอยู่สักพั กก็ไปเจอรถคันหนึ่งจอดอยู่ห่างออกไป คุณฟาร์มคิดว่าน่าจะใช่ และพอดีที่มองขึ้นไปบนหน้าต่างและเห็นเพื่อนที่มาด้วยกันนั่งอยู่บนนั้น ขณะนั้นคุณฟาร์มเล่าให้ฟังภายหลังว่า…น่าแปลกอยู่เหมือนกัน ที่รถไม่ได้จอดอยู่ที่เดิม และในรถก็มืดสนิท แต่ตอนนั้นคิดว่ารถกำลังจะออกและรอเขาอยู่คนเดียว จึงรีบไปขึ้นโดยไม่ได้คิดอะไร

ทันทีที่คุณฟาร์มนั่งลงข้างคุณตี๋ รถก็เคลื่อนตัวออกแทบจะในทันที คุณฟาร์มนั่งอยู่ในความมืดสักครู่ใหญ่ ก็เหมือนนึกเอะใจในความเงียบสะงัด มันเงียบมากจนเหมือนไม่มีใครขยับสักคนบนรถ จู่ๆโทรศัพท์ก็แจ้งเตือนดังขึ้นเป็นเมสเซนเจอร์ จากเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหน้านั่นเอง คุณฟาร์มชะโงกหน้าไปมองด้วยความสงสัย ว่าทำไมไม่พูดกับเขาโดยตรงเหมือนตลอดทางที่ผ่านมา ตอนนั้นเองที่คุณฟาร์มเริ่มสังเกตได้ถึงความผิดปกติ บรรยากาศในรถดูขุ่นมัวพิกล ไม่เว้นแม้เพื่อนเขาที่นั่งอยู่ด้านหน้า ก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตา คุณฟาร์มอดคิดไม่ได้ว่า…ตอนเขาลงไปคงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือเป็นเพราะเข้าไปเข้าห้องน้ำนานไป

คุณฟาร์มเปิดดูข้อความ แล้วก็ต้องทำหน้างง

“ทำอะไรอยู่”

“ทำอะไร? ทำไมเหรอ..เมื่อกี้ตอนกรุไม่อยู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?”

“เกิดอะไร..ไม่มีนี่ เมิงรีบๆมาได้แล้ว”

คำพูดของเพื่อนสร้างความสับสนให้คุณฟาร์ม ทั้งยังไม่ได้ตอบคำถามของเขา จนราวกับคุยอยู่กันคนละเรื่อง แต่ทันใดนั้นสายเรียกเข้าก็ดังขึ้น เป็นสายคุณตี๋..คนที่นั่งอยู่ข้างเขานั่นเอง คุณฟาร์มหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆ แต่คุณตี๋นั่งนิ่งไม่ได้หยิบโทรศัพท์ยกขึ้นมาด้วยซ้ำ แม้จะรู้สึกแปลกๆแต่ก็กดรับสายในที่สุด…

“ฟาร์ม นี่กรุตี๋นะ…”

“เมิงเสร็จรึยัง รีบๆมาเร็วๆ ทั้งคันเขารอมึงอยู่คันเดียวเนี่ย”

พูดเรื่องอะไร? พวกเพื่อนกำลังรวมหัวกันแกล้งเขาหรือเปล่า? คนที่นั่งข้างๆ ยังคงนั่งนิ่งไม่แม้แต้มีท่าทางว่าจะขยับปาก หรือกำลังพูดคุยโทรศัพท์ แต่เสียงนั้นเป็นคุณตี๋ไม่ผิดแน่ แล้วจู่ๆเหมือนรู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องมอง…คนที่นั่งข้างคุณฟาร์มก็ค่อยๆหันหน้ามาช้าๆ แทบจะ90 องศา โดยที่ส่วนลำตัวไม่ขยับ คุณตี๋มองมาทางคุณฟาร์มด้วยหน้าบึ้งตึง

ก่อนที่คุณฟาร์มจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ เขาก็รู้สึกตัวว่าไม่ได้มีแค่คนที่นั่งข้างเขาเท่านั้นที่หันหน้ามาจ้องดู เหมือนทุกสายตาบนรถจะหันหน้ามาทางเขา ในสภาพที่ลำตัวส่วนที่เป็นคอลงมาแทบไม่ขยับ โดยเฉพาะเพื่อคนที่นั่งเบาะหน้า หันคอกลับหลังมามองเขาในลักษณะ180 องศา คอเห็นรอยบิดปูดโปนจนน่าเจ็บปวดอย่างชัดเจน แน่นอนว่าคนปกติไม่มีใครทำได้!  นั่นเป็นภาพสุดสยองสุดท้าย ที่คุณฟาร์มเห็นก่อนที่จะกรี๊ดร้องสุดเสียงและสลบไป

คุณตี๋เล่าว่าหลังปะติดปะต่อกับคำบอกเล่าของฟาร์ม จังหวะที่ทุกคนกำลังรอฟาร์มอยู่บนรถด้วยความร้อนใจเพราะหายไปนาน เพื่อนอีกคนจึงเมสเซจไปหาและคุณตี๋ก็โทรไปถามจริง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังสนั่น มาจากอีกฟากหนึ่งของลานในอู่รถ สร้างความสนใจและตกใจให้คนที่ได้ยิน ทั้งรถก็มองนอกหน้าต่างในทางเดียวกัน ตรงนั้นเป็นคล้ายสุสานรถ ที่มีซากรถทัวร์ผุพังไปจอดกองรวมอยู่หลายคัน ซึ่งไม่น่าจะมีใครไปอยู่ในนั้น จนมีเจ้าหน้าที่คนงานในสถานีพากันวิ่งไป และพบฟาร์มนั่งในสภาพไร้สติอยู่บนซากรถคันหนึ่ง

ในภายหลังได้ทราบว่า รถคันนั้นเป็นซากรถทัวร์ที่ประสบอุบัติเหตุตกไหล่ทางพลิกคว่ำ เสียชีวิตยกคัน เมื่อช่วง 3-4 ทุ่มก่อนนี่เอง ถูกลากมาไว้ที่นี่หลังตำรวจท้องที่ดำเนินการเสร็จ คนงานเล่าว่าที่นี่ก็มีแบบนี้อยู่บ่อยๆ ไม่มีใครอยากเดินไปทางนั้นกลางคืนกัน และจนแล้วจนรอด…เราก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ฟาร์มเห็นคืออะไรหรือมันเกิดขึ้นได้ยังไง หลังจากเสร็จงานของเราในช่วงเช้าวันนั้น ก่อนกลับเราได้แวะทำบุญกันที่วัดแถวนั้น จากที่ได้เล่าเรื่องราวให้หลวงพ่อฟังดูเหมือนจะเป็นคราวเคราะห์ของฟาร์ม หรือจิตใจอยู่ในช่วงที่สื่อสารถึงได้พอ ดีจึงได้เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น

อ่านเรื่องผีน่ากลัว เรื่องอื่นๆ >> กดที่นี่

กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์