10 เรื่องเล่าผีในรั้วโรงเรียน ที่นักกิจกรรมอยู่ดึกๆมักจะเจอ!

วันจบการศึกษา

วันถ่ายรูปหมู่พิธีจบการศึกษาชั้นม.3 ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เนื่องจากก่อนหน้านั้นมีนร.คนหนึ่งทำรถมอเตอร์ไซค์ล้มจนต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการโคม่าไปก่อนหน้าเพียงไม่กี่วัน ทำให้เขาไม่สามารถมาร่วมงานได้ เพื่อนๆร่วมห้องจึงออกความเห็น และช่วยกันนำโต๊ะเรียนและเก้าอี้ของเขา มาตั้งในแถวถ่ายรูปด้วยเพื่อเป็นการรำลึกถึง เสมือนได้จบการศึกษาร่วมกันทุกคน แต่อ.ประจำชั้นกลับเห็นว่าเกะกะ จะทำให้รูปออกมาไม่สวย จึงสั่งนร.ให้เอาออกไป เพื่อนๆเสียใจกันมาก และยิ่งมากที่สุดเมื่อทราบว่าเย็นวันนั้นเขาได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา แต่ปรากฎว่าภายหลัง…รูปถ่ายที่อัดออกมา กลับมีนร.คนนั้นติดมาด้วย… เขานั่งห้อยขาอยู่บนคอครูประจำชั้น คงเป็นเพราะว่าเขาไม่มีเก้าอี้หรือโต๊ะให้นั่งนั่นเอง

นักเรียนที่หายไป

เรื่องเล่าจากนักเรียนโรงเรียนสาธิตฯแห่งหนึ่ง เนื่องจากวันแสดงใกล้เข้ามาแล้ว คืนนี้สมาชิกชมรมจึงได้อยู่ซ้อมกันดึกและทำเรื่องค้างคืนกันที่โรงเรียน เนื่องจากเป็นการซ้อมใหญ่และอุปกรณ์ประกอบฉากมีขนาดกว้าง จึงพากันไปซ้อมที่ดาดฟ้าชั้น 6 หลังจากซ้อมกันเสร็จก็รีบเก็บข้าวของ และเตรียมจะเข้านอนไปได้ไม่นาน ก็มีเสียงเคาะประตูดังสนั่นจนตกอกตกใจกันหมด ปรากฏว่าเป็นน้ายาม ทุกคนมีสีหน้าโล่งอกขึ้น…จนกระทั่งหน้ายามเริ่มถามเราว่า “นักเรียนในชมรมอยู่ที่กันครบรึเปล่า?” หลังจากมองหน้ากันไปมาก็พบว่าไม่มีใครหาย ลุงยามเลยเล่าให้ฟังว่า “เมื่อกี้ลุงไปตรวจตราบนดาดฟ้ามา เห็นนักเรียนคนหนึ่งยังไม่เลิกซ้อมรำ เลยจะเข้าไปบอกว่าหมดเวลาแล้ว ปรากฎว่าน้องคนนั้นเดินๆๆไปข้างหน้าจนล่วงหายไปจากดาดฟ้าต่อหน้าต่อตาน้าเลย!” พอพากันกลับขึ้นไปดูบนดาดฟ้าอีกที ก็ไม่พบใคร นอกจากชฎาเก่าอันหนึ่งจากชุดนางรำ ที่ดูเหมือนว่าตอนนักเรียนเลิกซ้อมจะลืมเก็บมาด้วย

แสงไฟปริศนาในโรงยิม

เมื่อวันแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจ.สมุทรปราการใกล้เข้ามา แม้ว่าตอนนี้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 2 ทุ่มแล้ว แต่ก็ยังมีนักกีฬาซ้อมตีวอลเลย์บอลกันอยู่จำนวนหนึ่ง แต่จู่ๆก็มีเรื่องให้ชวนขนลุกขึ้นมา! เมื่ออยู่ดีๆไฟในโรงยิมที่ประตูเลื่อนรอบๆได้ปิดหมดแล้วก็ดับพรึ่บกระทันหัน นักเรียนในนั้นตกใจกลัว จึงพยายามเดินคลำมารวมกลุ่มกัน แล้วยืนอยู่นิ่งๆให้สายตาชินกับความมืด แต่แล้วก็มีคนสังเกตเห็นแสงไฟดวงเล็กคล้ายจากไฟแช็คถูกจุดสว่างขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่งของโรงยิม แม้ว่าเงาจะทอดลงบนช่วงใบหน้าจนมองไม่เห็นว่าเป็นใครก็ตามที นักเรียนกลุ่มนี้เข้าใจว่าเป็นยามมาตรวจตรา เลยเดินกันเข้าไปขอความช่วยเหลือ แต่พอเดินเข้าไปเกือบถึง อีกราวๆ 4-5 ก้าว จู่ๆไฟก็ดับหายไป พร้อมๆกับที่มีเสียงจุดไฟดัง “แช๊ะ!” ขึ้นอีกครั้งแต่ดังมาจากทางด้านหลัง เพียงเท่านั้นก็ทำให้คิดกันไปไกล แต่ละคนแตกฮือกันไปคนละทิศละทาง บ้างก็กรีดร้อง บ้างก็สะอึกสะอื้น เลยพากันคำหาทางออก หลังจากนั้น ไฟก็ยังถูกจุดขึ้นตามมุมต่างๆ ที่แตกต่างกันไปเรื่อยๆ อีกหลายครั้ง กระทั่งผ่านไปราว 15 นาที ก็เจอทางออก พอกำลังจะก้าวออกไป ไฟในโรงยิมก็กลับมาติดสว่างพรึ่บไปทั่ว แต่ไม่พบใครเลยนอกจากนักกีฬาวอลเลย์บอล

พานไว้ครูสุดหลอน

คืนก่อนวันไหว้ครู นักเรียนจากสายนาฏศิลป์หาลือกันว่า เราจะทำพานที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของสายเรียน โดยได้ข้อสรุปเป็นพานที่เป็นรูปนางรำ หลังทำไปจนฟ้าเริ่มมืดจวนจะเสร็จแบบร่างแล้ว ก็มีเพื่อนคนหนึ่งทักขึ้นมาว่า หน้านางรำดูแปลกๆ เหมือนกำลังโกรธและน่ากลัว แต่เนื่องจากทุกคนก็อยากรีบกลับบ้านจึงไม่ได้สนใจอะไร และในที่สุดพานก็เสร็จตอนราวๆ 3 ทุ่ม ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน ก็ไม่ลืมที่จะรวมกลุ่มกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกโดยที่มีพานตั้งอยู่ด้านหน้า แต่กดถ่ายรูปไปได้รูปเดียว ไฟกระดับพรึ่บกระทันหันอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย อย่างไรก็ตามความน่าขนลุกไม่ได้เกิดจากการที่ไฟมันดับ หากแต่เป็นภาพถ่ายที่ว่า เมื่อนำมาดูในภายหลัง ปรากฎว่าบนพานที่ควรจะมีรูปนางรำอยู่ก็อันตธานหายไป แต่กลับมีคนในชุดนางรำที่คล้ายกัน ยืนร่วมเฟรมอยู่ที่มุมด้านหลังแทน!

ห้องนาฏศิลป์ที่ปิดตาย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง ที่มีห้องนาฏศิลป์เก่าถูกปิดตายไว้ด้วยไม้กระดานตอกด้วยตะปู แน่นอนว่าเป็นเขตที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าโดยพละการ อย่างไรก็ตามก็มีนักเรียนบางคนสนใจใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ประกอบกับมีตำนานเรื่องเล่าพูดถึงห้องนี้กัน ยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นอันไม่สิ้นสุด ราว 5 โมงเย็นหลังเลิกเรียนวันหนึ่ง นักเรียนผู้กระหายใคร่รู้รอให้คนไม่พลุกพล่านและแอบลงไปยังห้องที่ถูกปิด แต่เนื่องจากกระดานไม้ถูกตีไว้ค่อนข้างแน่นหนา มีเพียงช่องว่างแคบๆระหว่างแผ่นไม้ที่พอจะสอดส่ายสายตาเข้าไปได้ และพอจ้องมองดูดีๆก็ได้เรื่อง… มีบางอย่างเคลื่อนไหวไปมาอยู่ในห้องที่ไม่ควรมีใครอยู่ พอลองปรับมุมมอง กวาดตาดูดีๆก็พบว่า…บางสิ่งที่ว่าเป็นหัวโขน เป็นหัวโขนที่ชุ่มโชกไปด้วยของเหลวหนืดสีแดงชาดจนน่าขนลุก แถมยังลอยไปมาอยู่กลางอากาศราวกับถูกเชิดไว้ด้วยเส้นด้ายที่มองไม่เห็น หลังเรื่องนี้ถูกพูดถึงไปทั่วโรงเรียน ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ห้องที่ว่าอีกเลย กระทั่งอาคารที่ว่าก็ถูกทุบทิ้งแล้วสร้างขึ้นใหม่

ต้นโพธิ์ข้างโรงเรียน

เย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน นักเรียนชั้นประถมปั่นจักรยานกลับบ้าน กระทั่งมาหยุดพักเล่นกันใต้ต้นโพธิ์ต้นหนึ่ง หนึ่งในนั้นมีคนที่เซนส์แรง และสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ได้ยินเสียงคล้ายคนครางอยู่ในลำคอดัง “ฮึ่มมม…” พร้อมๆกับที่มีลมพัดขึ้นมาวูบหนึ่ง นักเรียนหญิงคนนั้นรีบตะโกนบอกเพื่อนในกลุ่ม ให้รีบเอาจักรยานกลับบ้านทันที หลังกลับมาแล้วนักเรียนหญิงก็รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนใครจองมองตัวเองอยู่ในเวลาที่อยู่คนเดียว เวลาที่เธอเดินไปตรงไหน ก็จะทิ้งเศษใบ้โพธิ์แห้งๆตกเอาไว้โดยไม่รู้ตัว กระทั่งเช้าวันถัดมา เธอได้คุยให้เพื่อนๆในกลุ่มเมื่อวานฟัง พบว่ามีคนอื่นๆพบเรื่องราวแปลกๆไม่ต่างจากตน จึงคิดได้ว่าเย็นวันนั้นพวกตนอาจจะนำพาบางอย่างติดตัวกลับไปกันด้วย จึงนัดให้ผู้ปกครองพากันไปทำบุญ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร และสัมภเวสีทั้งหลาย ที่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยไม่ตั้งใจ ภายหลังจึงได้ทราบว่าต้นโพธิ์ที่ว่ามีชายนิรนามเกิดคิดสั้นและผูกคออยู่บนกิ่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็ไม่เจอเรื่องแปลกๆอีกเลย กระทั่งผ่านไปสามวัน ขณะนักเรียนหญิงแผ่เมตตาและกรวดน้ำอยู่ที่บ้าน สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับเงาบนกระจกที่สะท้อนภาพของเธอเอง หากแต่มีเงาชายนิรนามนั่งยองๆอยู่ด้านหลัง แล้วใช้มือแต่ที่ข้อศอกของเธอขณะกรวดน้ำ! เธอได้แต่ภาวนา ให้ชายคนนี้ได้รับส่วนบุญและไปสู่สุขคติในเร็ววัน

ขอโต๊ะได้มั้ย?

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับโรงเรียนในจ.ชุมพร เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนก่อนวันงานนิทรรศการของโรงเรียนเพียง 1 วัน ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่นักเรียน และอาจารย์จะอยู่กันดึกดื่น เพราะต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาที่เหลือน้อย ในการช่วยกันเตรียมตัวและจัดการความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ทำการขนย้ายโต๊ะเก้าอี้มารวมไว้ที่ห้องจัดกิจกรรม พวกเขาตามหาโต๊ะเก้าอี้ในห้องแล้วห้องเล่า ก็ไม่มีโต๊ะเก้าอี้เหลืออยู่ให้พวกเขาเลยสักตัว อันเนื่องมาจากถูกกลุ่มกิจกรรมอื่นมาขนไปใช้แล้ว กระทั่งเดินลึกเข้าไปยังห้องเรียนด้านในสุด ก็พบว่า…ในห้องนั้นยังมีโต๊ะเหลืออยู่ แต่มีผู้หญิงผมยาวในชุดนักเรียน นั่งหันหลังอยู่คนเดียวในห้องนั้น ทั้งๆที่ดึกดื่นป่านนี้ไม่น่าจะมีคนมานั่งตามลำพังคนเดียว ก็อดคิดดีไม่ได้เลยว่า…หรือพวกตนจะเจอดีเข้าให้แล้ว!? เลยพากันรีบเผ่นกลับไปมายังห้องจัดกิจกรรมของตัวเอง และเล่าสิ่งที่เจอให้ทุกคนในห้องฟัง อย่างไรก็ตาม หลายๆคนก็มองว่าเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ บ้างก็หาว่ากลัวอะไรไม่เข้าท่า แต่ทั้งความสงสัยก็ไม่ใช่จะไม่มีเสียทีเดียว ก็อยากรู้กันว่าสิ่งที่เห็นนั่นเป็นคนหรือผี เลยไปขอใช้ห้องโสตฯ เพื่อดูกล้องวงจรปิด ภาพย้อนไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน ก็แสดงให้เห็นว่านักเรียนทุกคนในห้องนั้น ล้วนกลับไปหมดแล้ว แต่จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฎตัวเข้ามาในเฟรม เดินดุ่มๆมาปีนขึ้นไปบนโต๊ะตัวหนึ่ง แล้วทำการห้อยคอตัวเองกับพัดลมเพดาน ห้อยต่องแต่งต่อหน้าต่อตา!! ขณะที่วิดีโอดำเนินต่อไปให้เห็นว่า ร่างนั้นดิ้นเร่าๆอยู่ ศีรษะของเธอก็ค่อยๆบิดหันหน้ามามองทางที่กล้องวงจรปิดติดตั้งไว้ อย่างตาไม่กระพริบ!! ถึงตรงนี้คนที่มุงมอนิเตอร์อยู่ก็ผงะ แตกฮืออย่างไม่ได้นัดหมาย เช้าถัดมาจึงได้สอบถามจากอาจารย์เก่าแก่ท่านหนึ่ง เพื่อจะได้ความว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? “เมื่อก่อนเคยมีเหตุการณ์ นักเรียนหญิงรุ่นพี่พวกเธอ ถูกแฟนบอกเลิก จนเสียใจคิดสั้น แล้วไปจบที่ผูกคอในห้องนั้น!!” แม้มันจะนานมาแล้ว แต่ก็ไม่นึกเลยว่า วิญญาณของเธอจะยังคงวนเวียนอยู่…

กองเชียร์บนคานสูง

เหตุการณ์นี้เป็นตำนานที่เล่าต่อๆกันมาในหมู่ศิษย์เก่าของโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ เรื่องมีอยู่ว่าช่วงเตรียมกีฬาสีของปีหนึ่ง…เป็นปกติที่ช่วงนี้ทั้งครูและนักเรียนจะมีกิจกรรมที่ต้องตระเตรียมงานกีฬากันหลังเลิกเรียน ซึ่งบ้างครั้งก็อาจจะล่วงเลยจนดึกดื่น ที่โรงอาหารซึ่งคณะเชียร์ลีดเดอร์ใช้เป็นที่ฝึกซ้อมกัน ทั้งโรงอาหารจึงมีเพียงเสียงนับจังหวะ 5..6..7..8.. แต่ระหว่างที่การซ้อมดำเนินไปด้วยดีนั้น จู่ๆเสียงของสมาชิกที่ต่อตัวขึ้นไปอยู่บนยอดก็เงียบหายไปซะเฉยๆ ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดดังลั่น เพื่อนด้านล่างจึงละสายตามองขึ้นไปบนยอด สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือ มีผู้หญิงในชุดสีขาว ผมยาวดำขลับ ตัวซีดเผือด นั่งอยู่บนคานด้านบนของโรงอาหาร พร้อมกับส่งสายตาจ้องมองลงมายังกลุ่มซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ แล้วปรบมือให้อย่างชอบอกชอบใจ!! ทำเอากลุ่มซ้อมเชียร์พากันแตกฮือราวกับผึ้งแตกรัง รีบเก็บข้าวเก็บของ ก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากโรงอาหารแบบที่ไม่คิดจะหันหลังกลับมาดู ภายหลังเรื่องนี้ถูกกล่าวขานกันในหมู่นักเรียน ก็กลายเป็นว่าไม่มีใครจะกล้าที่มองขึ้นไปยังยอดคานนั้น…แม้ว่าจะเป็นเวลากลางวันแสกๆก็ตาม

อ่านเรื่องเล่า เรื่องผีพันทิป เรื่องอื่นๆ >> คลิก

กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์