เรื่องผี the shock เรื่องนี้อยู่ในช่วงเดอะช็อคสตอรี่ หรือเป็นช่วงที่ทางผู้ดำเนินรายการจะนำเรื่องผีที่ส่งเข้ามาจากทางบ้าน มาอ่านให้ฟังในรายการ โดยเรื่องที่ว่านี้เป็นเรื่องเล่าผีของ ‘คุณเบน’ กับประสบการณ์ที่ต้องบอกเลยว่า “สยองปนสยิว” คือคุณเบนไปหลงรักสาวที่พบโดยบังเอิญที่คอนโดแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้อหลังของเธอมาก่อน
The shock story เรื่องผี “แพร” โดยคุณเบน
เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อหลายสิบปีก่อน คุณเบนมีอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิศของบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ในขณะนั้นคุณเบนยังเป็นหนุ่มอายุ 20 กว่าปี เนื่องจากยังโสดจึงได้หาคอนโดอยู่แถวเตาปูน และในวันที่คุณเบนย้ายข้าวของเพื่อเข้าห้องใหม่ของเขาที่ชั้นสิบ ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้พบพานกับหญิงสาวสวยคนหนึ่ง
โดยปกติแล้วลิฟท์ของคอนโดแห่งนี้จะมีอยู่คู่กัน 2 ตัว หากมีใครที่กำลังจะขนของย้ายเข้า ทางผู้จัดการคอนโดจะจัดการให้ผู้อาศัยใหม่ ใช้เป็นลิฟท์ส่วนตัวสำหรับขนของโดยเฉพาะตัวหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกคนที่อาศัยอยู่ ณ ที่นั้นจะเข้าอกเข้าใจเสมอไป ขณะที่คุณเบนงุ่นง่านสาระวนอยู่กับการนำของเข้าลิฟท์ ก็มีผู้รอใช้งานลิฟท์ยืนออกันอยู่บริเวณนั้นจำนวนหนึ่ง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีคนขึ้นลงเยอะแต่เหลือลิฟท์ให้ใช้เพียงตัวเดียว
แต่ในหมู่ผู้ที่ทำหน้าปั้นปึ่งบอกบุญไม่รับ บ้างก็หันมามองด้วยหางตาส่งสัญญาณมาทางคุณเบน ก็ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้นช่วยให้หัวใจพองโต แม้จะทันเห็นเพียงแวบเดียวแต่คุณเบนมั่นใจว่าสวยแน่นอน ก่อนที่เธอจะเดินหายลับเข้าไปในลิฟท์พร้อมคนอื่นๆ ราวกับรักแรกพบ เลิฟแอทเฟิร์สไซจน์ยังไงอย่างนั้น บอกเลยว่าคนนี้แหละสเป็ค!
ภายหลังอาทิตย์ถัดมา ในขณะที่ขึ้นลิฟท์คุณเบนก็มีโอกาสได้พบกับหญิงสาวคนที่ว่านั่นอีก คุณเบนจะคอยแอบมองเธออยู่เป็นพัก แบบที่ไม่ให้เธอรู้ตัวมกระทั่งเธอออกไปที่ชั้น 8 หลังจากนั้นมาเขาก็ยังได้พบเธออยู่บ่อยๆที่ลิฟท์ ในบางครั้งมีโอกาสได้ขึ้นลิฟท์กันแบบ 2ต่อ 2 ก็อดคิดไม่ได้ว่าอยากจะลองทักเธอดู “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” “วันนี้อากาศดีเช่นเคยนะครับ” แต่จะพูดออกมาที่ไรเสียงก็แหบแห้งหายไปในลำคอด้วยความเขินทุกครั้ง สรุปว่าคุณเบนก็ได้แต่แอบชอบเธออยู่ฝ่ายเดียว เป็นเวลาพักหนึ่ง
และแล้วโอกาสดีๆก็วนมาอีกครั้ง หากได้อยู่กัน 2 คนยังไม่กล้าทัก ชาตินี้คงไม่ได้รู้จักกัน คุณเบนรวบรวมความกล้าด้วยการสูดลมให้เต็มปอด แล้วโพล่งออกไปด้วยเสียงดังๆฟังชัด
“เอ่อ ชื่ออะไรครับ?”
ปรากฎว่า..เธอไม่ตอบอะไรกลับมา! เรียกว่าจั่วลมก็คงจะได้! อย่างไรก็ตามยังพอมีเห็ดโคนงอกออกมาหลังฤดูฝนสาดซัดกระหน่ำ คุณเบนแอบเห็นว่าเธอมียิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวออกจากลิฟท์ไปที่ชั้น 8 บางทีสำหรับครั้งแรกอาจถือว่า “มีประเด็น” แล้ว หลังจากวันนั้น ทุกครั้งทีเจอกันคุณเบนมักจะแอบมองเธออยู่เสมอ พอเธอหันมาเจอก็จะยิ้มเขินตอบกลับมา แต่หากวันไหนมีคนอยู่ในลิฟท์เยอะ เธอจะมีท่าทีตรงกันข้าม คือมักจะมองด้วยหางตาขิ้วขมวด พร้อมบ่นอุบอิบมาทางที่ที่คุณเบนยืนแอบมองอยู่แทน
กระทั่งวันนึงก็มาถึง วันที่ความพยายามที่ผ่านของคุณเบนจะไม่สูญเปล่า ขณะที่อยู่ 2 ต่อ 2 ในลิฟท์ แม้ไม่ได้พูดอะไรกันแต่คุณเบนก็รู้ว่าเธอรู้ ว่าเขาแอบบเฝ้ามองเธอทุกวัน และตอนที่เธอจะก้าวขาออกจากลิฟท์ที่ชั้น 8 เธอก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า “แพร..ชื่อแพร” ก่อนที่ประตูจะปิดลงทิ้งให้คุณเบนอมยิ้มเหมือนเป็นบ้าอยู่คนเดียว
หลังจากวันนั้น คุณเบนได้สานสัมพันธ์อันดี มีโอกาสได้คุยกับ ‘แพร’ มากขึ้น แม้เธอจะดูไม่ค่อยช่างพูดนัก จนคุณเบนพอจะรวบรวมข้อมํลส่วนตัวของเธอมาได้จำนวนนีงว่า แพรอาศัยอยุ่กับแม่และน้องสาว เธอเป็นพนักงานออฟฟิศทำงานด้านบัญชีที่บริษัทเอกชน ซึ่งคุณเบนมักจะพบเธอในชุดทำงานแบบสาว working woman เสมอ โดยช่วงเวลที่จะเจอคือช่วงสองถึงสามทุ่ม
มีอยู่วันหนึ่ง แพรไม่ได้ลงที่ชั้น 8 อย่างทุกวัน แต่ขึ้นเลยมาลงชั้น 10 ด้วยกันกับคุณเบน และได้ใช้เวลาพูดคุยทำความรู้จักกันตามประสาหนุ่มสาวกัน จนกระทั่งคุณเบนค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า เธอเองก็คงจะมีใจให้เช่นกัน จึงได้ขอเป็นแฟน แต่สาวเจ้ากลับนอ่งเงียบไปพักใหญ่ ไม่ได้ตอบอะไรแต่กับถามเขาแทนว่า “แน่ใจเหรอ? แน่ใจนะ?” ก่อนที่จะกลับลงไปที่ชั้น 8
คุณเบนและแพรคุยๆกันอยู่เช่นนี้นานหลายเดือน โดยที่ไม่เคยละลาบละล้วง หรือลุกล้ำขอเข้าไปยังห้องของอีกฝ่ายเลย อย่างไรก็ตาม คุณเบนสังเกตเห็นอย่างนึงว่า แพรมักจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่รู้จักกันเวลาอยู่ต่อหน้าคนหมู่มากเช่นในลิฟท์ ซึ่งคุณเบนก็เข้าใจไปว่าเธอคงจะเขินและยังไม่พร้อมจะเปิดตัวตอนนี้ อีกทั้งคุณเบนมักจะอยู่ในชัดลำลองสบายๆอย่างเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ได้หล่อเนี๊ยบแบบคนอื่นๆในคอนโด ตลอดเวลาที่คบหากันทั่งคู่ไม่เคยออกไปเดทด้วยกัน มีเพียงแค่ยืนคุยกันที่ระเบียงหน้าลิฟท์ชั้น 10 แต่นั้น
เรื่องราวความสัมพันธ์ของคุณเบนกับแพรดำเนินไปอย่างช้าๆ จนวันนึงคุณเบนกลับจากทำงาน ก็เจอแพรรอขึ้นลิฟท์อยู่ในกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง คุณเบนออกจะเสียดายเล็กน้อยที่วันนี้ดอกาสไม่เป็นใจมีก้างขวางคอซะได้ แพรยังคงเมินใส่เขาเหมือนที่ทำประจำเวลาอยําต่อหน้าคนเยอะๆ กระทั่งขึ้นมาถึงชั้น 10 แต่นึกขึ้นได้ว่าลืมซื้อของเลยรีบกดลิฟท์กลับลงไปยังชั้นล่างโดยไม่ได้เข้าห้องก่อน หลังซื้อของเสร็จกำลังจะขึ้นลิฟท์ ปรากฎว่าเจอแพรอีก ก็รู้สึกดีใจ สงสัยจะลงมาทำธุระอะไรเหมือนกัน คราวนี้มีคนรอขึ้นไม่กี่คน กะว่าเดี๋ยวรอบนี้ต้องหยอกต้องแซวเล่นซะหน่อย
ตอนที่อยู่ในลิฟท์ คุณเบนพยายามจะเบียดตัวเข้าไปยืนชิดๆกับแพร กระทั่งลิฟท์เคลื่อนตัวไปเกือบจะถึงชั้น 8 ก็พูดกระซิบแผ่วเบาหยอกเธอว่า… “ลงมาอีกเนี่ย อย่าบอกนะว่าคิดถึง เลยตามผมลงมา?” แต่เธอกับนิ่งเงียบไม่แม้แต่หันกับมามอง รางกับไม่ได้ยิน…ไม่สิ เะอแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินมากกว่า พอถึงชั้น 8 แพรก็รีบเดินออกไปทันทีโดยไม่มีท่าทีว่าจะหันกลับมามอง คุณเบนตะโกนตามหลังออกไปว่า “ฝันดีนะครับ..แพร!”
แต่ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น แพรมีปฏิกิริยาทันที เธอหันกลับมาขว้ามือคุณเบนแล้วลากออกมาจากลิฟท์ แล้วพาไปที่ห้องของเธอ ในนั้นมีแม่ของเธออยู่ด้วย ก่อนที่เธอจะเริ่มร้องไห้ฟูมฟายออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ แม้แต่แม่ของแพรก็ดูจะตกใจ เลยถามลุกสาวว่า “เป็นอะไรไปลูก เขาทำอะไรลูกรึเปล่า!” แม้แต่คุณเบนที่ถูกลากมาในสถานการณ์นี้ก็ได้แต่มองหน้ากันไปมา
“ผู้ชายคนนี้…เขาเรียกพลอยว่า “แพร” ค่ะแม่…”
พอได้ยินแบบนั้นคุณแม่ของเธอก็เริ่มต้นร้องไห้ตาม กอดกันกลมกับลูกสาว คุณเบนจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไปพูดหรือทำอะไรผิดรึเปล่า เลยจะขอตัวออกมาก่อน แต่แม่ของเธอทักไว้ก่อน “อย่าพึ่งไป อยู่คุยด้วยกันก่อน…”
หลังจากเวลาผ่านไปพักหนึ่งจนเธอหยุดร้อง ก็ลุกขึ้นไปหยิบกรอบรูปจากบนชั้นก่อนที่จะส่งให้คุณเบนดู ภาพที่เห็นนั้นทำเอาคุณเบนตกใจจนตาแทบถลน ในรูปนั้นเผยให้เห็นหญิงสาว 2 คนที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกันมากๆ ราวเป็นคนเดียวกัน มันทำให้เขานึกถึงคำพูดของแพรที่เคยบอกว่าตัวเองอาศัยอยู่กับแม่และน้องสาวอีกคน แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าน้องสาวที่ว่าเป็นฝาแฝด พลอยถามคุณเบนว่า ทำไมถึงรู้จักพี่แพรได้ คุณเบนก็เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่พบกันเหมือนกับที่ทุกคนได้อ่านมาด้านบน
คุณแม่อนุญาตให้พลอยเล่าให้คุณเบนฟัง เธอเริ่มต้นเล่าว่าตัวเธอเองนั้นมีพี่สาวที่เป็นแฝดกันชื่อ “แพร” แพรทำงานที่ตึกเดียวกันกับเธอ ทุกๆวันพี่น้องสองสาวแทบจะตัวติดกัน ไปทำงานพร้อมกัน กินข้าวกลางวันร้านเดียวกัน และกลับบ้านก็กลับด้วยกัน แต่แล้ววันที่เข้ามาพรากทุกสิ่งไป ในเที่ยงวันหนึ่งขณะพักทานอาหารกลางวัน มีรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว พุ่งเข้ามาชนแพรจอนกำลังข้ามถนนอยู่พอดี แพรต้องนอนในห้องฉุกเฉินอยู่ 3 วัน แล้วก็จากไปอย่างสงบ
แม้ว่างานฌาปนกิจจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่พลอยก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ จึงตัดสินใจย้ายออกจากห้องพักเดิมที่เคยใช้เวลาร่วมกัน ที่เคยอยู่ด้วยกัน ก่อนที่แม่จะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอที่คอนโดแห่งนี้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม พลอยยืนยันว่าไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครที่คอนโดนี้ฟัง แน่นอนว่าไม่ควรจะมีใครรู้จักกับ “แพร” เธอจึงตกใจมากตอนที่ได้ยินคุณเบนเรียกเธอด้วยชื่อของพี่สาว
หลังจากนั้นคุณเบนยังได้สนทนากับน้องสาวและแม่ของแพรถึงเรื่องราวของเธออยู่อีกพักใหญ่ ก่อนจะขอรูปของเธอกลับมาด้วย แต่ขณะที่เขาก้าวออกมาจากห้องนั้น ราวกับท้องฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย เขาแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะก้าวขาก้าวถัดไปอีกแล้ว แม้จะได้คบกันในช่วงสั้นๆ แต่แพรเป็นคนที่คุณเบนรักมากๆ ไม่คิดว่าทุกสิ่งที่กำลังดำเนินไปด้วยดีจะกลายเป็นแบบนี้ได้ แม้ความจริงเธอนานจะจากไปแล้ว สิ่งที่เขาพบคงไม่ต่างจากผีหรือวิญญาณ แต่คุณเบนกลับไม่รู้สึกกลัว ตรงกันข้าม..ยังอยากเจอกับแพรอีกสักครั้ง หากเป็นไปได้
หลังจากการเปิดเผยอันน่าตกตะลึงในวันนั้น คุณเบนมีโอกาสได้เจอคนที่หน้าเหมือนกับหญิงสาวที่เขารักเป็นครั้งคราว คุณเบนจะหันไปมองก่อนจะทำท่าทางเหมือนเรียกชื่อว่า “แพร” โดยไม่ออกเสียง แต่คนที่ยืนอยู่ก็จะตอบกลับมาว่า “นี่พลอยเอง” ทุกครั้งไป เพื่อจะบอกว่าคนที่เขาพบเป็นน้องสาวฝาแฝด หาใช่คนรักของเขาไม่ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้พบกับ “แพร” ที่เขาใฝ่ฝันถึงอีกเลย และนี่ก็รือเรื่องราวทั้งหมด…
ขอขอบคุณเรื่องผี the shock : แพร โดย คุณเบน จากเดอะช็อคสตอรี่
อ่านเรื่องผีจากพันทิป เรื่องอื่นๆ >> คลิก
กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์