ผู้ใช้สมาชิก sixthsense ได้มาแชร์ลิสต์รวบรวมหนังผีน่ากลัวและสยองขวัญที่ตนเองชื่นชอบ 31 เรื่อง มาแนะนำให้ได้เป็นแนวทางหาหนังมาดูกัน โดยความตั้งใจของลิสต์นี้คือ เลือกเอาหนังผีที่ยังพอหาดูได้ไม่ยากนัก เพราะหากอยากดูแต่ไม่สามารถหาหรือชมได้ยาก มันก็ไม่มีประโยชน์ | เรื่องอันดับ เป็นเพียงความชอบของแต่ละบุคคล | หลายๆเรื่องในลิสต์ ด้วยความรู้สึกได้ถึงความยอดเยี่ยมหรือบางเรื่องก็สนุก เสียจนน่าเสียดาย ที่หากความสนุกของหนัง จะมาบดบังความสยองแบบหนังผีไปบ้าง แต่ก็บันเทิงพอที่จะหามาดู | หลาย ๆ เรื่องอาจจะไม่ปรากฏอยู่ในลิสต์นี้ นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี
31 หนังผีน่ากลัว ที่ไม่ควรพลาด …. หลอนกันให้เข็ด
31. The Pact (2012) บ้านหลอนซ่อนตาย
: หนังผีฟอร์มเล็กที่มันส์เกินคาด! เรื่องราวว่าด้วยแอนนี่ได้กลับไปยังบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่เมื่อสมัยเป็นเด็ก เพื่อจัดงานศพให้แม่ของเธอ แต่จู่ๆ ‘นิโคล’ พี่สาวของเธอกลับหายตัวไปไร้ร่องรอย เธอเชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างซ่อนเร้นในบ้านหลังนี้ และลงมือสืบหามัน
เป็นเรื่องที่ลุ้นใช้ได้ มีหักมุม แม้จะไม่ได้น่ากลัวหรือชวนตกใจนัก แต่กลับสร้างบรรยากาศที่ชวนไม่น่าไว้ใจได้ดี แม้กระทั่งตอนจบก็ยังเหลือ clue ไว้ให้ไปจินตนาการต่อ!
30. Insidious (2011) วิญยาณตามติด
: หนึ่งในแฟรนไชส์หนังผีชื่อดังของผู้กำกับสายแมสแห่งยุคอย่าง ‘เจมส์ วานน์’ ผู้มีโปรเจคมากมายที่หยิบจับอะไรก็ล้วนทำเงิน นี่เป็นหนังผีเรื่องแรกๆที่สร้างชื่อให้กับเขาในวงกว้าง จนมีภาคต่อตามมาอีกเป็นพรวน! หนังพูดถึงครอบครัวหนึ่งที่ย้ายไปอยู่ในบ้านที่คนพ่อซื้อมาราคาถูกๆ แต่แล้วลูกชายก็มีอาการแปลกๆ คือชอบละเมอ และฝันเห็นอะไรแปลกๆ จนกระทั่งเรื่องราวดำเนินไปในทิศทางว่า เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นในบ้าน อาจไม่ได้เป็นเพราะอาถรรพ์ของบ้าน แต่บางอย่างที่ว่ามันตามเด็กมา! เรื่องนี้มีเซ็ตติ้งโลกในหนังเป็นของตัวเอง ซึ่งจะเชื่อมโยงกับภาคอื่นๆที่ออกตามมา เป็นหนังผีที่ค่อนข้างจะแฟนตาซี มีเรื่องของภพ มิติ และปีศาจ รวมอยู่ในเรื่องเดียว!
29. คน ผี ปีศาจ (2004)
: ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับ ‘มะเดี่ยว ชูเกียรติ’ อีกหนึ่งหนังทริลเลอร์/สยองขวัญของไทยที่ถือว่ามีดีอยู่ในตัว เรื่องราวพูดถึงเด็กสาวที่ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กในโรงพิมพ์แห่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์เก่าสนิมเขรอที่ดูลึกลับพิกล มิหนำซ้ำป้าที่เป็นเจ้าของก็ดูน่ากลัวแบบที่ว่าคาดเดาไม่ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่ เป็นหนังระทึกขวัญแนวๆกักขังในพื้นที่จำกัด ที่มีดีตรงการสร้างบรรยากาศกดดันและแฝงการวิพากษ์สังคมไว้ แม้ว่าจะน้อยคนที่รู้จัก เนื่องจากในปี 2004 ถูกกลบด้วยหนังผีระดับตำนานไทยอย่างชัตเตอร์ซะมิด
28. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2004)
: หากพูดถึงหนังสยองขวัญในหมวดหนังผีของไทย ‘ชัตเตอร์’ คงเป็นเรื่องแรกๆที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคุย เนื่องจากเป็นกระแสอย่างแรงในสมัยที่ออกฉาย หนังหยิบยกเรื่องราวของภาพถ่ายติดวิญญาณทั้งหลายมาผูกกับประเด็นดราม่าที่พบเจอได้ทั่วไปอย่าง ‘ความรู้สึกผิด’ ต่อการกระทำในอดีต แม้หนังจะไม่ได้เน้นความน่ากลัวเต็มสูบ แถมยังได้กลิ่นอายของผีเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี แต่เรื่องนี้ก็นับว่าเป็นต้นแบบของหนังผีไทยหลายๆเรื่องต่อมา โดยเฉพาะฉากขึ้นหิ้งอย่าง “ผีขี่คอ” อันลือลั่น!
27. The Conjuring (2013) คนเรียกผี
: อีกหนึ่งแฟรนไชส์ทำเงินของผู้กำกับมือดีอย่าง ‘เจมส์ วานน์’ ซึ่งนอกจากจะมีภาคต่อเป็นพรวน ยังมีภาคแยกย่อยอีกมากมาย จนเรียกว่าเป็นหนังจักรวาลหนังผีเหมือนหนังซุปเปอร์ฮีโร่เค้าทำกันแล้ว โดยเรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอย่างดงาม หนังหยิบเอาประเด็นเรื่องจริงของ ‘มือปราบสิ่งลี้ลับ’ คู่หูสามีภรรยาที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือเคสอาถรรพ์คำสาปต่างๆ เหมือนเป็นศูนย์บรรเทาทุกข์ผี อันที่จริงเรื่องนี้ได้รับการชื่นชมในแง่การสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวกดดัน โดยไม่ต้องพึ่งฉากตุ้งแช่ แต่กับคนที่จิตแข็งมากหน่อย อาจจะเฉยๆไปเลย
26. Below (2002) ดิ่งลึกหลอนสยอง
: หนังลึกลับสยองขวัญที่มีคอนเซปต์คือ “ความกลัวของมนุษย์” หนังพูดถึงลูกเรือดำน้ำทางการทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีภารกิจต้องดำดิ่งลึกลงไปในโลกที่ไร้แสงสว่าง ความมืด ความไม่รู้ เป็นจุดเริ่มต้นของความกลัว นอกจากข้าศึกในสงคราม ภัยอันตรายใต้ทะเล ยังมีเรื่องราวตำนานลึกลับที่ถูกกล่าวขาน ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้จิตใจของผู้คนในที่แคบๆเริ่มสั่นคลอน
แม้ตัวหนังจะเล่าช้าๆ แต่ด้วยบรรยากาศในที่แคบ ทำให้เรารู้สึกกดดันและมีส่วนร่วมตามไปด้วยไม่ยากเย็น
25. Three อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต (2002)
หนังผีสยองขวัญร่วมทุนสร้างของ 3 ชาติ คือไทย เกาหลี และฮ่องกง โดยได้ 3 ผู้กำกับจากแต่ละชาติมารังสรรค์ไอเดียของตัวเองลงในหนังซึ่งแบ่งย่อยเป็นสามตอนที่เป็นเอกเทศกัน ถือว่าเป็นอีกหนังผีไทยในยุครุ่งเรื่องของหนังผี
ตอนที่ 1 : The Wheel โดย นนทรีย์ นิมิตรบุตร (#ประเทศไทย)
เรื่องราวของคณะละครหุ่นกระบอกที่ในอดีตบรรพบุรุษได้รับสืบทอดมาโดยไม่ชอบ จนนำคำสาปตกทอดมายังรุ่นลูกหลาน มีอันต้องเป็นไป เป็นตอนที่เน้นแสดงออกถึงความเป็นผีไทย มีผีนางรำ ผีชฎา เนื้อหาตามสูตรที่จะเริ่มจากความแค้นที่นำมาสู่คำสาป
ตอนที่ 2 : Memories โดย คิมจีวุน (เกาหลีใต้)
เป็นตอนที่เริ่มต้นด้วยบรรยากาศคล้ายหนังระทึกขวัญ ซึ่งพูดถึงหญิงสาวผู้สูญเสียความทรงจำ และพยายามจะสืบความเป็นมาขอบตนเองจากร่องรอยที่มี แม้ว่าสิ่งที่รอคอยอยู่ปลายทางจะเป็นอะไรที่ชวนขนลุกก็ตาม ฉากผีเอานิ้วจกเข้าไปในหัวตอนท้ายเรื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งฉากไอคอนนิคของหนังผีระดับคลาสสิค!
ตอนที่ 3 : Going Home โดย ปีเตอร์ ชาน (ฮ่องกง)
หนังตอนนี้เล่าถึงชายคนหนึ่งที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับร่างไร้วิญญาณของภรรยาในห้องเช่าเก่าๆ รายกับเธอยังคงมีชีวิตอยู่ หนังพาเราไปดูว่าทำไมชายคนหนึ่งถึงยังควรักภรรยาได้ขนาดนี้ จนดูเหมือนกับเป็นหนังรักที่เศร้ามากกว่า จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่หนังเปิดเผยถึงความลับหักมุมที่สมกับเป็นหนังสยองขวัญ กับตอนจบที่ชวนสะเทือนใจคนดูเป็นอย่างมาก
24. Session 9 (2001) โรงพยาบาลซ่อนหลอน
เรื่องราวของคณะเก็บกวาดที่ถูกส่งมาโรงพยาบาลจิตเวชเก่าร้าง เพื่อเตรียมปรับปรุงพื้นที่ แต่ที่นี่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยประวัติดำมืด พร้อมกันนั้นก็เริ่มมีภัยบางอย่างค่อยๆคืบคลานเข้ามา ลูกทีมเริ่มเป็นบ้า กระทั่งไปพบวิดีโอเทปลับม้วนหนึ่งซึ่งเป็นของคนไข้จิตเวชที่เคยก่อเหตุชวนเหลือเชื่อ
หนังมีเทคนิคที่แพรวพราว บรรยากาศของโรงพยาบาลร้างชวนให้หลอนอยู่ในใจ ในการทำให้คนดูรู้สึกระแวดระวัง ไม่มีใครที่สามารถเชื่อใจได้ ปริศนาต่างๆที่ซ่อนอยู่ซึ่งถูกเฉลยในช่วงท้ายก็หักมุมแบบที่เดาได้ไม่ง่าย
23. The Exorcist (1973) หมอผี เอ็กซอร์ซิสท์
หนังสยองขวัญขึ้นหิ้งระดับคลาสสิค ที่ต่อมามีการนำมารีเมคหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับการยอมรับเท่าภาคแรกในปี’73 อีกเลย
หนังว่าด้วยเรื่องราวของลูกสาวดาราชื่อดังที่มีอาการคล้ายจิตเภท เด็กสาวที่เคยเรียบร้อยกลับสบถด้วคำหยาบคาย รูปร่างหน้าตาที่นับวันก็ยิ่งดูเหมือนคนป่วยหนัก จนสุดท้ายต้องเดือดร้อนหลวงพ่อมาทำพิธีปราบผี หากแต่สิ่งที่มันสิงสู่อยู่ในกายเธอ กับเป็นสิ่งที่ร้ายกาจยิ่งกว่าผีสางนางไม้ใดๆ ขนาดที่หลวงพ่อจากโบสถ์ดังก็เอาไม่อยู่!
นี่คือหนัง Horror ที่เคยเข้าชิงออสการ์กว่าสิบสาขา! นี่คือหนังผีที่มีฉากปราบผีซึ่งเป็นต้นแบบของวงการ..อันลือลั่น! นี่คือหนังสยองขวัญที่เบื้องหลังมีอาถรรพ์ชวนสยองไม่แพ้หน้าหนัง! แต่สำหรับคนยุคใหม่ที่กลับไปดูเรื่องนี้ อาจรู้สึกว่าไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ควรแค่แก่การหามาดูสักครั้ง
22. Trick ‘r Treat (2007) กระตุกขวัญวันปล่อยผี
“อย่าลบหลู่วันฮาโลวีน”
วันฮาโลวีนซึ่งเด็กๆต่างเฝ้ารอคอยที่จะได้แต่งตัวแฟนซี จัดปาร์ตี้แสนสนุก และเที่ยวเคาะประตูรับขนม ภายใต้บรรยากาศที่ดูสนุกสนาน เฮาฮา กลับมีเรื่องชวนขนลุกคลืบคลานอยู่อย่างเงียบๆภายใต้เสียงหัวเราะ เนื่องจากมีบางคนละเมิดกฎของวันฮาโลวีน
นี่เป็นหนังสยองขวัญที่รวมเรื่องสั้น 4 เรื่องที่มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติต่างกันทั้งผี ปีศาจ อาถรรพ์ภายใต้บรรยากาศวันฮาโลวีน ซึ่งแต่ละเรื่องก็จะมีจุดที่เชื่อมโยงกัน เป็นหนังผีที่มีหลายอรรถรสเลยทีเดียว
21. The Ring (2002), Ringu (1998) เดอะริง คำสาปมรณะ
“ผีทะลุจอ”
หนังซึ่งสร้างมาจากงานเขียนของนักเขียนนิยายสยองขวัญชื่อดังชาวญี่ปุ่น ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลากหลายเวอร์ชัน แม้กระทั่งฮอลลีวูดก็เคยนำไปรีเมค ที่ถึงแม้แต่ละเวอร์ชันจะถูกดัดแปลงแตกต่างไปจากนิยายต้นฉบับ แต่มันก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
เรื่องราวจะพูดถึงวิดีโอเทปต้องคำสาป ที่หากใครได้รับและเปิดดูจะมีอันเป็นไปภายใน 7 วัน ไม่มีทางหนี ไม่มีทางแก้ ไม่มีข้อยกเว้น เป็นหนังผีแนวคำสาปทวงแค้น ขณะที่ภายหลังมีหนังสือภาคต่อออกมาจากเดอะริง ที่ขยายปมแลถเบื้องหลังของคำสาปนี้ชนิดที่หน้ามือกลายเป็นหลังมือเลยทีเดียว ส่วนซาดาโกะผีในเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในต้นแบบของผีเอเชียระดับคลาสสิคเลยทีเดียว ด้วยท่าคลานออกมาจากจอทีวีอันตราตรึง!
20. Drag Me to Hell (2009) กระชากลงหลุม
“อย่าลองดีกับมนุษย์ป้า”
เรื่องราวของพนักงานธนาคารสาวที่มีหน้าที่ไปทวงหนี้ลูกค้าเบี้ยว ในครั้งนั้นเป็นคราวของป้าแก่ประหลาดนางหนึ่งที่ร้องห่มร้องไห้เพราะไม่อยากถูกยึดบ้าน ซ้ำร้ายยังอาฆาตแค้นสาวแบ็งค์ที่ทำตามหน้าที่(แบบแอบมีหมั่นไส้ป้า) ผลลัพธ์ของความมั่น ยอมหักไม่ยอมงอเป็นฉนวนเหตุให้อำนาจมืดกำลังมาเปลี่ยนชีวิตเธออย่างที่ไม่มีโอกาสได้กลับไปแก้ไข เมื่อยัยป้าลูกหนี้ที่ไม่น่าเป็นพิษเป็นภัยแก่เธอได้ปรากฎว่าเป็นผู้บูชาศาสตร์มืด!
นี่คือผลงานการกำกับของผู้กำกับสไปเดอร์แมนไตรภาคแรกอันโด่งดังอย่าง “แซม ไรมี่” ที่แฟนๆจะรู้กันดีว่าความจริงแกหมกมุ่นในหนังสยองขวัญขนาดไหน และนี่คืออีกหนึ่งผลงานสยองขวัญตลกร้ายที่ทั้งโหด ทั้งมันส์เลยทีเดียว กับศึกยัยป้าอาฆาตและสาวมั่นผู้ไม่ยอมอ่อนข้อ รวมทั้งบสรุปส่งท้ายที่ราวกับถูกตบหน้าจนร้อนผ่าวๆ
19. The Omen (1976) ดิ โอเมน กำเนิดซาตานล้างโลก
“ชิงนรกมาเกิด”
หนังเล่าถึงเด็กชายที่ถูกรับมาเลี้ยงจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของครอบครัวมีอันจะกินที่กำลังเศร้าโศกจากการเสียลูกไป จนกระทั่งมีอายุครบห้าปี กลับค่อยๆมีเหตุการณ์สยองเกิดขึ้นในบ้านขึ้นทีละอย่างสองอย่าง เพราะเขาเป็นบุตรแห่งซาตานที่มาจุติบนโลก
แม้ตัวหนังจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ อำนาจลึกลับ แต่ถูกเล่าด้วยปมแบบหนังทริลเลอร์ มีการสืบสวนสอบสวนถึงเหตุการณ์สยองแบบมีที่มาที่ไป ถึงแม้บางเหตุการณ์จะดูเหลือเชื่อบ้างก็ตาม ฉากโชว์ความหลอนของบุตรแห่งซาตานสยองติดตาแบบไม่ต้องพึ่งจัมพ์สแคร์!
18. Oculus (2014) ส่องให้เห็นผี
“เราเห็นเฉพาะในสิ่งที่มันอยากให้เห็น”
หนังว่าด้วยเรื่องของสองพี่น้องชายหญิง ซึ่งคนน้องชายต้องเติบโตโดยอยู่ในความดูแลของสถานบำบัดจิต เนื่องจากในอดีตเคยกระทำผิดร้ายแรงด้วยการยิงพ่อเพื่อช่วยแม่ จนกระทั่งหลายปีผ่านไปได้รับการยืนยันว่าสามารถออกไปใช้ชีวิตตามปกติได้ โดยคนที่มารอรับเขาคือพี่สาว ผู้ซึ่งเชื่ออย่างแรงกล้าว่าเหตุการณ์ในอดีตเกิดขึ้นจากเหนือธรรมชาติจาก “กระจกเงาโบราณ” บานหนึ่งซึ่งมีประวัติอาถรรพ์มายาวนาน จนกระทั่งพ่อของเธอได้ซื้อมันมาไว้ในบ้านสมัยเด็ก จนทำให้คนในบ้าน โดยเฉพาะพ่อของพวกเธอเริ่มเปลี่ยนไป….
หนังเล่าในแนวทางของการสืบและพิสูจน์ในความเชื่อของตัวนางเอกคนพี่สาวว่าทฤษฎีที่ตนเชื่อนั้นถูกต้อง กระจกเงาธรรมดาแท้ตริงมีอำนาจชี้นำจิตใจมนุษย์ที่อยู่ใกล้ๆได้ โดยจะค่อยๆแสดงเหตุการณ์ในอดีต(เรื่องสมัยเป็นเด็ก) สลับกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน(พี่น้องทำการทดลองกับกระจกในห้องที่เต็มไปด้วยกล้องวิดีโอ) โดยที่คนน้องไม่ค่อยเต็มใจและเชื่อว่าทั้งหมดเป็นความผิดตัวเอง
เป็นหนังสยองโทนระทึกขวัญที่สนุกและลุ้นตลอด แม้ว่าไม่ได้มีฉากตุ้งแฉ่หรือผี ปีศาจออกมาเดินให้เห็นซักเท่าไหร่ แค่กระจกบานนึงในห้องที่เต็มไปด้วยกล้องเก็บภาพตลอดเวลา กับอุปกรณ์เงื่อนไขที่นางเอกคิดขึ้นมาจับผิด ก็ชวนให้เชื่อว่า..เดี๋ยวอีกระจกมันต้องแผลงฤทธิ์อะไรออกมาแน่ๆ กระทั่งฉากเด็ดที่นางเอกเองถูกอำนาจลวงตาให้ตัวเองเคี้ยวหลอดไฟดังโพละ! จนแดงฉ่ำไปทั้งปาก
17. นางนาก (1999)
“ยามนึกถึงเรื่องของฉัน จำไว้ในใจเสมอ ฉันทำไปเพราะรักเธอ … ผู้เดียว”
เป็นหนังผไทยที่เคยเป็นกระแสอย่างมากในยุคที่มันฉาย นับว่าเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ก้าวผ่านหลักร้อยล้านบาทอีกด้วย หนังตีความตำนานของ “แม่นากพระขโนง” ซึ่งเดิมทีก็มีละครอยู่หลายเวอร์ชั่น โดยหนังนำมาทำในโทนที่ดูจริงจัง สมจริง จนเชื่อว่าในอดีตเคยเกิดเหตุการขึ้นจริงๆ นอกจากจะเก็บรายละเอียดจากตำนานเหตุการณ์ที่เล่าขานแล้ว ยังเสริมในส่วนของมิติตัวละครให้คนดูได้เห็นว่าเหตุใดนางนากถึงไม่ไปผุดไปเกิด และยังคงรอคอยคนรักกลับมา ภาพรวมจึงมีทั้งความสะเทือนใจในโชคชะตาของตัวละคร และความน่ากลัวในส่วนของฉากผีอาฆาตได้อย่างลงตัว ส่วนฉากที่เป็นไอคอนนิคของเรื่องนี้ก็คงจะเป็นฉากที่พระเอกก้มมองลอดหว่างขา กับฉากนางเอกยืนห้อยหัวลงมาจากศาลาวัด!
16. บอดี้ ศพ#19 (2007)
“ฉันชื่อดาราราย ตามหาฉันให้เจอ”
หนังแจ้งเกิดของนักแสดงหนุ่มเป้ อารักษ์ ที่ถึงแม้ตัวหนังจะไม่ประสบผลสำเร็จด้านรายรับ แต่ถูกพูดถึงชื่นชมในการวิจารณ์ หนังเล่าถึงนักศึกษาหนุ่มที่ได้ฝันเห็นหญิงสาวปริศนาที่ถูกฆาตกรรม โดยมีเบาะแสคือชื่อของเธอว่า “ดาราราย” แต่แล้ว..เมื่อเขาเริ่มสืบเข้าไปลึกเท่าไหร่ คนรอบตัวก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในอันตรายและเงามืดดูเหมือนอยู่ใกล้ตัวกว่าที่เขาคิด ราวกับว่ากำลังถูกขัดขวางไม่ให้เขาได้เข้าใกล้ความจริง
เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญไทยเรื่องแรกๆที่มีการนำ CG มาสร้างเป็นตัวผี ทำให้งานภาพดูแปลกตาไป ในขณะที่เนื้อเรื่องก็มีการหักมุมคนดูในตอนจบอย่างชวนตกตะลึง เพียงแต่ว่ามันก็ไม่ได้ใหม่นัก หากคุณเคยดูหนังสยองขวัญต่างชาติมาเยอะพอ
15. Paranormal Activity (2007) เรียลิตี้ ขนหัวลุก
“กล้องวิดีโอจับผี”
หนังสยองขวัญที่เคยเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในต่างประเทศในช่วงที่มันฉาย โดยจุดเด่นคือเป็นหนังประเภทฟุตสเตจตั้งกล้องถ้ายทั้งเรื่อง โดยที่มีนักแสดงหลักเพียงแค่สองสามีภรรยา ที่ซึ่งย้ายบ้านมาอยู่ในที่ใหม่ แต่แล้วก็เริ่มพบเจอเหตุการณ์ประมาณโพลเตอร์ไกส์ หรือเหตุการณ์ที่สิ่งของขยับนู่นลอยนี่ในบ้าน จนกระทั่งผัวผู้ซึ่งบ้ากล้องวิดีโอนำไปติดตั้งไว้ตามบ้าน แม้กระทั่งห้องนอนเพื่อที่จะจับบางสิ่งให้ได้ขาหนังคาเขา เป็นหนังทุนต่ำที่มีช่วงให้หาวอยู่เรื่อยๆ แต่จะมีไคลแมกซ์ที่คนดูจะรอดูคือช่วงเวลากลางคืน ที่จะค่อยมีเหตุการณ์ที่ไต่ระดับความระทึกขึ้นไปในแต่ละคืน
เป็นหนังขายไอเดียที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ จนมีภาคต่อมาอีกหลายภาคแต่ไม่ดังเหมือนภาคแรก ด้วยความที่ไอเดียไม่สดใหม่แล้ว
14. สี่แพร่ง (2008) / ห้าแพร่ง (2009)
“หลากผี หลากอารมณ์”
เป็นอีกหนึ่งผลงานสยองขวัญที่สร้างเสริมชื่อเสียงให้แก่ค่าย GTH เดิม ว่าไม่ได้มีดีแค่หนังรอม-คอม เป็นหนังแนวเรื่องสั้น 4-5 ตอนที่เล่าถึงเรื่องราวสยองขวัญต่างสถานที่ต่างเหตุการณ์กัน โดยแต่ละเรื่องมีจุดเด่นและการสร้างความระทึกที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีหักมุมในตอน โดยภาพรวมแม้ว่าจะมีบางตอนที่หลอนมากน้อยต่างกัน แต่ยังคงเป็นหนังผีระดับตำนานที่นำออกมาดูได้เรื่อยๆ ตัวหนังเองก็ได้นักแสดงมากหน้าหลายตามาร่วมแสดงแต่ละตอนที่มีทั้งตอนที่หลอนจนหายใจไม่ทั่วท้อง หรือกระทั่งขำจนท้องแข็ง
ระทึกขวัญ = ยันต์สั่งตาย (สี่แพร่ง), Last Flight (สี่แพร่ง), Backpacker (ห้าแพร่ง), รถมือสอง (ห้าแพร่ง)
สะเทือนขวัญ = หลาวชะโอน (ห้าแพร่ง)
เขย่าขวัญ = เหงา (สี่แพร่ง), ห้องเตียงเดี่ยว (ห้าแพร่ง)
ฮาแบบเงิบๆ = คนกลาง (สี่แพร่ง), คนกอง (ห้าแพร่ง)
13. The Orphanage (2007) สถานรับเลี้ยงผี
“เอาลูกฉันคืนมา!!”
เรื่องราวว่าด้วยครอบครัวที่ย้ายมาอยู่ในบ้านหรูหลังหนึ่ง ที่ในอดีตเคยเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามาก่อน จู่ๆมาลูกชายของเธอก็เริ่มคุยกับเพื่อนในจินตนาการ จนกระทั่งหายตัวไป ในบ้านอดีตสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ซึ่งเธอเคยอยู่มาก่อน เธอจึงต้องออกตามหาก่อนที่สติจะกระเจิงไปมากกว่านี้ และเรื่องราวที่เป็นปริศนายังคงรอการให้ค้นพบ ซึ่งเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับอดีตของตัวเธอเอง
แม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้มีฉากที่น่ากลัวอะไรมาก แต่ด้วยบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ ปริศนาที่ค่อยๆเปิดเผยออกมา รวมทั้งเรื่องราวเบื้องหลังที่สะเทือนใจคนดู ทำให้หนังเรื่องนี้มีคุณค่าควรแก่การรับชมในตัวเอง
12. The Eye (2002) คนเห็นผี
“ผีมีอยู่ในทุกๆที่ กระทั่งรอบตัวเรา”
เรื่องนี้หยิบจับประเด็นคนที่มีความสามารถในการเห็นผีที่คนอื่นไม่เห็นมาเล่า โดยพูดถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้เข้ารับการผ่าตัดบริจากดวงตา แต่หลังจากที่กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ไม่เพียงแต่โลกที่คุ้นเคย ดูเหมือนจะมีอีกโลกที่ซ้อนทับอยู่ในโลกปกติให้เธอได้เห็น เมื่อไม่ว่าจะไปที่แห่งหนใด เธอจะต้องได้พบปะกับวิญญาณที่ยังคงร่องลอยอยู่ในภพภูมิเดียวกัน
หนังพาคนดูไปพบกับฉากระทึกหลอนกับวิญญาณที่พบเจอในชีวิตประจำวันของนางเอก พร้อมกับการค่อยๆเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเจ้าของดวงตาที่นางเอกได้รับมา หนังผูกโยงกับความเชื่อ พิธีกรรมในแบบชาวเอเชีย รวมทั้งเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับสองพี่น้องลูกครึ่งไทยอย่างออกไซด์-แดนนี่แปง ที่ยกระดับหนังผีไทยไปอีกขั้น
11. Unfriended (2015) อันเฟรนด์
“เราเคยเป็นเพื่อนกันใช่ไหม?”
เป็นอีกหนังสยองขวัญ/ระทึกขวัญขายไอเดีย ด้วยคอนเซปต์ของผีกับโลกไซเบอร์ หนังจะถูกแสดงผ่านเว็บแคมโซเชียลแชท คล้ายๆเฟสบุ๊คประมาณนั้น โดยเราจะได้เห็นเหตุการณ์ของตัวละครต่างๆไปพร้อมๆกันกับในเรื่อง
เรื่องราวเริ่มจากมีหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกบูลลี่จากกลุ่มเพื่อนร่วมสถานศึกษา ในคืนหนึ่งที่มีปาร์ตี้กันอย่างหนัก มีใครบางคนในกลุ่มเพื่อนนำคลิปน่าอายของเธอไปปล่อยในเน็ต จนกระทั่งบีบคั้นให้ตัวเธอเองคิดสั้น และในวันครบรอบการจากไปของเธอ ที่เพื่อนๆร่วมการระลึกถึงเธอผ่านวิดีโอแชท จู่ๆก็มีแอคเคาท์ของเธอโผล่ออกมาร่วมวงด้วย นั่นเป็นฝีมือของใครบางคนที่กำลังเล่นตลกหรือผีทวงแค้น?
หนังไม่ได้มีผีให้ดูกันจะๆตา แต่จะค่อยๆแสดงธาตุแท้ของแต่ละคนเมื่อถูกบีบคั้นจากสถานการณ์ ให้เห็นความรู้หน้าไม่รู้ใจของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เพื่อน’ น่าเสียดายที่ปมต้นเรื่องอาจจะดูมีน้ำหนักเบาไปนิดนึง จนทำให้มีผลต่อความอิน
10. A Tale of Two Sister (2003) ตู้ซ่อนผี
“เรื่องราวโศกนาฏกรรมในครอบครัว ที่ทั้งหลอนและสลดหดหู่”
หนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยาของเกาหลี ที่มีชื่อเป็นไทยชวนงงอย่าง… “ตู้ซ่อนผี” ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงภาพยนต์ที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เกาหลี ผลงานการกำกับของผู้กำกับที่เคยทำหนังร่วมทุนอย่าง อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต โดยในครั้งนี้เขาหยิบเอาเรื่องราวตำนานนิทานเก่าแก่มาดัดแปลงเป็นหนัง ที่พูดถึงสองพี่น้องสาวที่มียาดแผลในจิตใจจากเหตุการณ์ที่สูญเสียแม่ไป และถูกส่งตัวเข้าไปบำบัด จนกระทั่งได้กลับมาบ้านก็พบว่าบ้านได้ถูกควบคุมโดยแม่เลี้ยงคนใหม่ที่ดูเสแสร้งแกล้งทำอยู่ในที หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลเกิดจึ้นในบ้านไม้สองชั้นที่ส่งเสียงเอียดอาดอย่างน่าจนลุก แม้จะเป็นกลางวันแสกๆก็ตาม หนังค่อยๆบอกเล่าความน่ากลัวที่คืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ กับบทสรุปหักมุมที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาครอบครัวที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พรมที่เรียกว่าบ้าน
เป็นหนังสยองขวัญเอเชียระดับตำนาน จนถูกนำไปรีเมคโดยฮอลลีวูดในภายหลัง
9. The Babadook (2014) บาบาดุค ปลุกปีศาจ
“ปีศาจอยู่ในอก นรกอยู่ในใจ”
หนังทุนต่ำที่เป็นกระแสค่อนข้างแรงและทำรายได้ดีในครั้งที่ออกฉาย ซึ่งคนที่ชอบก็ชอบไปเลย ในขณะที่บางคนก็พาลเกลียดว่าหนังห่วยก็มี ซึ่งตัวหนังเองก็ให้ทางเลือกกับคนดูว่า…จะมองเป็นหนัง “สยองขวัญ” หรือ หนัง “ดราม่าจิตวิทยา” ตามแต่ร่องรอยทิ้งคนดูจะประติดประต่อเอา
หนังว่าด้วยเรื่องของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวกับลูกชาย เด็กน้อยที่ดูจะซุกซน ก้าวร้าวแปลกๆจนไม่สามารถเข้ากับสังคมได้ สร้างภาระความเหนื่อยสะสมทั้งกายและใจให้กับผู้เป็นแม่ ที่ยังคงจมปลักกับเรื่องของสามีที่จากไปก่อนวัยอันควร และทิ้งปัญหาไว้ให้เธอต้องต่อสู้เพียงลำพัง จนกระทั่งลูกชายของเธอได้หนังสือนิทานโบราณแปลกๆมา และเริ่มคุยกับ “บาบาดุ๊ค” ตัวละครในนิทานที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงจินตนาการหรือมันอาจมีตัวตนอยู่จริง
หนังสร้างความสับสนให้คนดูสงสัยว่า “บาบาดุ๊ค” มีตัวตนจริงๆหรือเป็นภาพมายาจากอาการทางจิตของคนในบ้าน ซึ่งหากตีความว่ามีตัวตนอยู่จริง นี่ก็ถือเป็นหนังสยองขวัญที่มีตัวละครน่าสยองออกมาได้ชวนขนลุก แต่หากตีความว่ามันไม่มีอยู่จริง จะนำไปสู่บทสรุปของหนังแนวดราม่าจิตวิทยา ที่ว่าด้วยเรื่องของปมในจิตใจจนทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแย่ลงเรื่อยๆ จนกว่าจะยอมรับมัน ซึ่งในกรณีนี้บาบาดุ๊คเป็นเสมือนตัวแทนของปมทางจิตของตัวละครในเรื่องทั้งแม่และลูก
8. R-Point (2004) สมรภูมิผี
“สงคราม = นรกบนดิน”
หนังที่ว่าด้วยเรื่องของทหารเกาหลีใต้ในสงครามเวียดนาม ซึ่งต้องไปปฏิบัตรภาระกิจสุดท้ายก่อนที่จะได้กลับประเทศ ซึ่งภาระกิจที่ว่า คือการออกตามหากองกำลังที่หายตัวไปทั้งกลุ่มอย่างลึกลับในพื้นที่ที่เรียกว่า r-point ซึ่งเคยได้รับการยืนยันว่าเป็นบุคคลสูญหายหรือไม่มีผู้รอดชีวิตมานานหลายเดือน จนกระทั่งวันหนึ่งทางหน่วยได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเสียงที่ขาดห้วง และพูดแต่ว่าทรมานอย่างแสนสาหัส จากหนึ่งในผู้ที่คาดว่ารอดชีวิตอย่างเป็นปริศนา จึงได้รวมตัวเป็นหน่วยเฉพาะกิจเข้าไปในพื้นที่ที่ถึงแม้จะเป็นเขตปลอดการต่อสู้ แต่ r-point ที่ว่านั้นเป็นพื้นที่ต้องห้ามของคนพื้นเมืองที่เชื่อว่ามีคำสาปลึกลับอยู่ และสิ่งที่พวกเขากำลังจะพบเจอนั้นอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าศัตรูหรือข้าศึกตัวเป็นๆ
เป็นอีกหนังสยองขวัญจากเกาหลีที่มาในรูปแบบของทริลเลอร์จิตวิทยา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของการทำสงครามและผลกระทบต่อทหารที่ต้องเข้าร่วมในสงครามที่อาจจะไม่มีความหมายต่อพวกเขาเลย แต่ต้องมาเผชิญกับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งในท้ายเรื่องนั้น ป็นไคลแมกซ์ที่จะพาเราดำดิ่งลงไปกับความสยองแบบนอนสต๊อป!
7. The Sixth Sense (1999) ซิกเซนส์ สัมผัสสยอง
“I see dead people”
จริงๆน่าจะเรียกได้ว่าเป็นหนังดราม่าที่อยู่ในครอบหรือตีมสยองขวัญก็ว่าได้ หนังพูดถึงหมอด้านจิตเวชที่คนไข้เคสล่าสุดเป็นเด็กที่มีอาการแปลกๆ ซึ่งแสดงให้เห็นในภายหลังว่าเป็นเพราะเขาสามารถมองเห็นวิญญาณหรือผีได้นั่นเอง
ตัวหนังที่ทำในส่วนของบรรยากาศความสยองขวัญได้ดี นอกจากนี้ยังพาคนดูไปประสบพบเจอกับเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของตัวละครทั้งทางฝั่งเด็ก และหมอที่มีแง่ขบคิด จนกระทั่งมาถึงบทสรุปที่ ‘หักมุมอย่างทรงพลัง’ ชนิดทำเอาหงายท้อง และเป็นต้นตำหรับของหนังผีหักมุมอีกหลายสิบเรื่องในเวลาต่อมา ซึ่งเกิดจากการปูเนื้อเรื่องและเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่ต้น จนสามารถเชื่อได้สนิทใจว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจพยายามยัดเยียดเกินไป
นี่เป็นหนังแจ้งเกิดของผู้กำกับเอ็มไนท์ชยามาลาน ที่เป็นเหมือนซิกเนอเจอร์ว่างานสยองขวัญของเขาต้องมีบทที่พิทสวงและจุดหักมุมที่ร้ายกาจ นอกจากนี้หนังเองก็ไปจุดถึงขั้นที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์อีกด้วย
6. Noroi The Curse (2005) อาถรรพ์ตำนานสยอง
“สารคดีตีแผ่คำสาป”
หนังแนวฟุตสเตจที่เล่าเรื่องในลักษณะของสารคดีแต่ง ม็อคอัพดอคคิวเมนทารี่ ที่เกิดจากการค้นคว้าของนักวิจัยปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติ หนังจะถูกตัดสลับระหว่างคลิปวีดีโอ ภาพจากหนังสือพิมพ์ สัมภาษณ์รายการ ข่าวจากสำนักข่าวโทรทัศน์ แล้วแต่ว่าหนังจะพาเราไป ซึ่งด้วยความยาวกว่า 2 ชั่วโมงก็ชวนให้เบื่อได้ง่ายๆด้วยความที่ตัวหนังไม่ได้มีเนื้อเรื่องเมนหลัก จนกระทั่งเวลาผ่านไปเราจะพบว่าเหตุการณ์ที่ถูกตัดสลับไปมานั้นมีความเชื่อมโยงให้คนดูปะติดปะต่อได้เอง! เรื่องราวที่ซ่อนเอาไว้ของตำนานปีศาจ “คากุทาบะ” ที่ทำให้หลังจากวิดีโอม้วนนี้ถูกตัดต่อเสร็จ บ้านของนักวิจัยก็ไฟไหมไปพร้อมกับภรรยา ส่วนตัวนักวิจัยกลับหายสาปสูญไป ซึ่งเหตุการณ์จะมีสองเส้นเรื่องที่เล่าสลับกันไป
ตัวหนังใช้บรรยากาศและพร๊อพประกอบที่ดูสมจริง จนดูๆไปเราจะเริ่มไม่มั่นใจว่า ที่กำลังดูอยู่มันเป็นเรื่องจริง จากเหตุการณ์จริงๆที่เกิดขึ้นในมุมหนึ่งของโลกหรือเปล่า จนชวนให้ติดตามดูไปเรื่อยๆ กับจุดไคลแมกซ์ท้ายเรื่องที่แม้จะไม่ได้ชวนสยองจนต้องปิดตา แต่กลับมีพลังที่รุนแรงจนติดอยู่ในสมองไปหลายวัน!
5. เปนชู้กับผี (2006)
“ผัวของใคร ใครก็หวง”
เป็นเรื่องผีที่มาในแนวไทยๆอย่างชัดเจน ว่ากันว่าได้แรงบรรดาลใจมากจากเรื่องสั้นผีในสมัยก่อนของ “เหม เวชกร” ที่มักจะเล่าเรื่องผีที่มีฉากหลังเป็นบรรยากาศเมืองไทยสมัยก่อน ที่ชวนให้เย็นเยียบ
เรื่องราวของหญิงสาวจากบ้านนอกที่ได้ออกตามหาสามีที่หายตัวไป กระทั่งได้มาอาศัยทำงานในบ้านเก่าแก่ของคุณนาย เศรษฐีณีที่ดูมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนเล้นเอาไว้ ในขณะที่มีเสียงเล่าลือในหมู่คนงานว่า คุณนายอาจจะซ่อนสามีลับไว้ในเรือนเก่าแก่ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆชวนให้หญิงสาวสงสัยว่า นั่นอาจเป็นสามีที่หายตัวไปของเธอ
เป็นอีกเรื่องที่มีตอนขบไคลแม็กซ์แบบหักมุม หากใครสนใจจะดูไม่ควรหาสปอยมาอ่านก่อน อย่างไรก็ตามตัวจุดหักมุมก็คล้ายคลึงกับหนังผีฮอลลีวู้ดชื่อดังหลายๆเรื่องเหมือนกัน
4. ลัดดาแลนด์ (2011)
“กูไม่ออก ออกแล้วกูจะเอาอะไรแ-ก!!”
ตัวหนังมีกระแสตั้งแต่ชื่อเรื่อง ‘ลัดดาแลนด์’ เป็นชื่อของหมู่บ้านและสถาที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คในอดีตของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เคยมีตำนานเล่าขานเกี่ยวอาถรรพ์ในพื้นที่แห่งนี้ แต่หนังได้หยิบมาเพียงชื่อของสถานที่แล้วเลือกที่จะเล่าในแนวทางของตัวเอง ซึ่งเป็นหนังผีอีกเรื่องของ GTH ที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารย์
หนังเล่าเรื่องของครอบครัวหนึ่งที่มีพ่อ แม่ ลูกสาว และลูกชายคนเล็ก ซึ่งได้ย้ายมาสู่บ้านหลังใหม่ที่คนเป็นพ่อตั้งความหวังเอาไว้อย่างสูง ด้วยความอยากที่จะพิสูจน์ตัวเองในฐานะหัวหน้าครอบครัว แต่แล้วมันกลับไม่เป็นใจอย่างนั้น เริ่มจากภาวะทางเศรษฐกิจทำให้คนพ่อต้องตกงานอย่างไม่คาดฝัน ขณะเดียวกันก็มีเหตุการณ์ชวนอกสั่นขวัญแขวนเกิดขึ้นในหมู่บ้าน จากนั้นหมู่บ้านก็เริ่มที่จะร้างราผู้คนขึ้นทุกวัน จนในที่สุดจากคำพูดว่า…กลัวที่จะอยู่ที่นี่ ที่หมู่บ้านนี้ต่อไป เป็นจุดเริ่มต้นของความร้าวฉานในครอบครัว ที่ตัวพ่อนั้นก็สูญเสียความมั่นใจ ที่แม้แต่บ้านก็จะรักษาไว้ไม่ได้ ส่วนตัวลูกและเมียก็อยากจะย้ายไปในที่ๆคิดว่าปลอดภัยกว่า
เป็นหนังผีที่แน่นด้วยบท ความสยอง และการแสดงที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีที่ติ ยืนยันได้ว่าหนังผีไทยหากมองค์ประกอบที่ดีพอ ก็สามารถเป็นหนังยอดเยี่ยมได้
3. The Others (2001) คฤหาสน์ สัมผัสผวา
“หนังผีหักมุมชวนอึ้งที่สุด นับตั้งแต่เรื่องเดอะซิกซ์เซ้นส์!”
หนังว่าด้วยเรื่องของครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกอีกสองคน ในคฤหาสน์ยุโรปหลังใหญ่ ซึ่งป่วยเป็นโรคบางอย่างทำให้ไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นภายใต้แสงแดดได้ จนกระทั่งคนแม่ได้ตัดสินใจรับสมัครแม่บ้านและคนสวนเข้ามาแบ่งเบา แต่ราวกับว่าพวกเขาและเธอนำอะไรบางอย่างที่จะเป็นภัยต่อครอบครัวเข้ามาด้วย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์แปลกประหลาดชวนขนลุก
เรื่องราวเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกในสถานการณ์และผู้คนที่ไม่น่าไว้วางใจ ทั้งๆที่เป็นบ้านของเธอเอง ความกดดันที่ทำให้คนป็นแม่ที่นอกจากต้องดูแลลูกๆในสถานที่ที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ราวกับถูกจองจำ ยังต้องมาเผชิญกับเรื่องราวลี้ลับ ในขณะที่ไคลแมกซ์บทสรุปของเรื่องก็ต้องทำให้คนดูเหวอจนตกเก้าอี้ชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้า! ตัวหนังเองก็ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ที่ยิ่งรู้รายละเอียดน้อยที่สุดยิ่งดี
2. It Follows (2015) อย่าให้มันตามมา
“กรรม คือ ผลของการกระทำในอดีต มันไม่มีวันหยุด และมันจะตามหลอกหลอนเราไปทุกๆที่”
เป็นหนังสยองขวัญที่มีสัญลักษณ์และเนื้อหาให้ตีความ โดยนำเอาเรื่องเกี่ยวกับการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งก่อนวัยอันควรและไม่ป้องกัน จะมีผลเสียตามติดต่อมาอย่างที่หนีไม่พ้น หลีกเลี่ยงไม่ได้
หนังพูดถึงวัยรุ่นสาวนางนึงที่ได้ตัดสินใจชั่ววูบที่จะมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรักที่พึ่งจะรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่ หลังจากนั้นเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับ ‘มัน’ ที่คอยติดตามไปทุกที่ ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรหรือจะหนียังไง ที่รู้มีเพียงอย่างเดียวคืออย่าให้มันจับตัวได้ ทางเลือกเดียวที่พอจะทำได้ คือต้องไปนอนกับคนมากหน้าหลายตาเพื่อถ่ายทอด ‘มัน’ ไปสู่คนอื่น โดยที่เหมือนตัวหนังพยายามจะเปรียบเทียบว่ามันคือโรคติดต่อหรือภาระผูกพันที่ตามมาจากการตัดสินใจอย่างไม่ยั้งคิด
หนังค่อนข้างจะฉีกขนบหนังสยองขวัญทั่วไป เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ‘มัน’ จะมาทางไหน เมื่อไหร่ จนอาจดูไม่มีที่มาที่ไปอยู่บ้าง อีกทั้งถ้ามองในมุมของความน่ากลัวที่มีการแช่ภาพนิ่ง แล้วเร้าด้วยดนตรี ก็มีทั้งคนที่ชอบมาก หรือเกลียดมากไปเลย
1. The Shining (1980) โรงแรมผีนรก
“ความโดดเดี่ยว ทำลายคนบางคนได้อย่างที่คาดไม่ถึง”
หนังสยองขวัญขึ้นหิ้งของผู้กำกับอัจฉริยะในตำนานอย่าง สแตนลีย์ ครูบิค ที่ในครั้งที่ออกฉายนั้นหนังเรื่องนี้ได้ถูกวิจารณ์อย่างเสียหาย แถมได้เข้าชิงภาพยนตร์ยอดแย่แห่งปี แต่กระนั้นแล้วการเวลาก็ได้พิสูจน์ว่าไม่มีอะไรแน่นอนเสมอไป ผ่านไปหลายสิบปีนี่คือหนังสยองขวัญที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่ง
หนังเล่าถึงชายคนหนึ่งได้รับงานเป็นผู้จัดการโรมแรมเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ในช่วงที่โรงแรมจะปิดให้บริการชั่วคราวในช่วงหน้าหนาว ซึ่งจะมีพายุหิมะขาวโพลนในระดับที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้เหมือนปิดตาย โดยที่ในอดีตเคยมีผู้จัดการคนกนึ่งที่คุ้มคลั่งเพราะความโดดเดี่ยวท่ามกลางสถานที่ที่ตัดขาดจากโลกภายนอก จนเป็นที่มาของโศกนาฏกรรมคาวคุ้งไปทั่วโรงแรมมาก่อน ซึ่งดูเหมือนว่าที่แห่งนี้มีพลังงานบางอย่างที่จะทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นอีกครั้ง
ตัวหนังสร้างมาจากนิยายของนักเขียนสยองขวัญชื่อดังอย่างสตีเฟน คิง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของเรื่องจะไม่ปลื้มเท่าไหร่ เพราะตัวหนังดัดแปลงไปค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตามนี่คือหนังสยองขวัญที่เล่นกับความกลัว ความจิตของคนที่บางทีก็น่ากลัวกว่าผีตัวเป็นๆ อีกทั้งยังมีดนตรีประกอบและงานกำกับศิลป์ที่มีเอกลักษณ์
ขอบคุณกระทู้แนะนำหนังผีดีๆจาก : สมาชิกพันทิป sixthsense
สปอยหนังผีน่ากลัว หนังสยอขวัญ เรื่องอื่นๆ >> คลิก
กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์